ร้านขายกล้องวงจรปิดกรุงเทพ

ร้านขายกล้องวงจรปิดกรุงเทพ ผบช.น.จ่อติดเรดไลท์ คาเมลล่าตรวจจับความผิดอีก 60 แยกทั่วกรุง

ร้านขายกล้องวงจรปิดกรุงเทพ ผบช.น.จ่อติด เรดไลท์ คาเมลล่า ตรวจจับความผิดอีก 60 แยกทั่วกรุง

ร้านขายกล้องวงจรปิดกรุงเทพ สืบเนื่องจากกองบัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) ได้ออกมาตรการ แก้ไขปัญหาจราจร โดยการยกรถจอดกีดขวางการจราจรชั่วโมงเร่งด่วนในพื้นที่ห้ามจอด 10 ถนนหลักในพื้นที่ 32 สน. แทนการล็อกล้อนั้นถือว่าประสบผลสำเร็จเกินคาดคือ ไม่พบการร้องเรียนหรือการโต้แย้งจากผู้กระทำความผิด และ ยอมจ่ายค่าปรับ 500 บาท รวมทั้งค่ายกรถอีก 500 บาทโดยดุษดี นอกจากนี้ยังได้มีการนำระบบ เรดไลท์ คาเมลล่า มาใช่

ล่าสุด ผบช.น.จะขยายมาตรการจับปรับยกรถจอดในเฟสที่ 2 สำหรับที่ห้ามจอดอีก 56 เส้นทางในพื้นที่รับผิดชอบงานจราจร 56 สน. ในเส้นทางที่ไม่ได้อยู่ในพื้นที่ตามโครงการเฟสแรรกหรือช่วงของการนำร่องในถนน 10 สายหลัก

ซึ่งสรุปแล้วมาตรการนี้จะมีผลบังคับใช้จับจริงยกจริง รวม 88 สน.ทั่วกรุงในวันที่ 1 พ.ย.นี้ ซึ่งเป็นช่วงที่โรงเรียนส่วนใหญ่ รวมทั้งโรงเรียนในสังกัดกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเทอมวันแรกพอดี จึงน่าจะช่วยแก้ปัญหาจราจรได้ระดับหนึ่ง

ร้านขายกล้องวงจรปิดกรุงเทพ ผบช.น.จ่อติดเรดไลท์ คาเมลล่าตรวจจับความผิดอีก 60 แยกทั่วกรุง

ทางด้านพล.ต.ต.อดุลย์ ณรงค์ศักดิ์ รอง ผบช.น.ในฐานะที่รับผิดชอบงานด้านการจราจร จึงได้ประชุมสั่งการบังคับใช้กฎหมายจราจรอย่างเคร่งครัดผ่านระบบวีดีโอ คอนเฟอเร้นท์ (Video Conference) ร่วมกับรองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1-9 และ ผู้บังคับบัญชาในกองบังคับการตำรวจจราจรเมื่อวันที่ 24 ตุลาคมที่ผ่านมา โดยเน้นย้ำมาตรการแก้ไขปัญหาจราจรกรณีขยายเส้นทางยกรถจอดกีดขวางการจราจรชั่วโมงเร่งด่วนครอบคลุมเส้นทางในกทม. 56 เส้นทางครบ ทั้ง 88 สน.

รองผบช.น. ท่านนี้ได้สั่งการกำชับให้ตำรวจจราจร ทุก สน.เร่งสำรวจความสัมพันธ์ของสัญญาณไฟจราจร และ จุดที่มีปัญหาในส่วนของวิศวกรรมจราจร โดยเฉพาะทางโค้ง ทางเลี้ยว ทางร่วมทางแยก เพื่อนำข้อมูลประสาน กทม. ดำเนินการแก้ไข รวมทั้งจัดระเบียบป้ายรถประจำทาง บริเวณหน้าตลาด ห้างสรรพสินค้าที่พบว่ายังมีการจอดแช่ ของรถเมล์ รถตู้ รถแท็กซี่ ซึ่งจะเชิญ ขสมก. กทม. กรมการขนส่งทางบกร่วมหารือมาตรการรองรับการเปิดเทอมด้วยพร้อมจัดกำลังตำรวจจราจรหน้าโรงเรียนบนเส้นทางที่มีปัญหาจราจรคับคั่ง ประสานทางโรงเรียนให้จอดรับ-ส่ง และ เคลื่อนออกไปทันที โดยนำกำลังตำรวจหรืออาสาสมัครเข้าไปช่วยทางโรงเรียนจัดการจราจร

นอกจากนี้ในที่ประชุมยังหารือถึงการพัฒนาระบบของศูนย์ควบคุม และ สั่งการจราจร (บก.02) ว่า จะต้องพัฒนาให้เป็นที่รองรับการทำงาน ของสน.พื้นที่ให้มากที่สุด การทำงานต้องครบถ้วนเข้าถึงพื้นที่แบบเรียวไทม์ มองเห็นพื้นที่ทั้งหมดโดยการดึงภาพจากระบบดาวเทียม การนับปริมาณรถทุกทางแยก เพื่อคำนวณสภาพการจราจร และ การใช้ใบสั่งอิเล็คทรอนิกส์ที่มีการประมวลผลได้ทันทีมาใช้งานกับทุก สน. โดยจะพัฒนาให้ทันต้นปี 2557 เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับประชาชนผู้ใช้รถ

ขณะเดียวกัน ผบช.น.จะพัฒนา ระบบตรวจจับรถยนต์ฝ่าฝืนสัญญาณไฟจราจร หรือระบบเรดไลท์ คาเมลล่า (Red Light Camera) ที่ประกอบด้วย 3 ส่วนคือ ตัว กล้องวงจรปิด (CCTV) ระบบเซ็นเซอร์ และ เครื่องประมวลผล ซึ่งเมื่อรถวิ่งฝ่าสัญญาณไฟจราจร ระบบเซ็นเซอร์จะทำงานพร้อมกับบันทึกภาพรถที่ทำผิด

ร้านขายกล้องวงจรปิดกรุงเทพ ผบช.น.จ่อติดเรดไลท์ คาเมลล่าตรวจจับความผิดอีก 60 แยกทั่วกรุง

“ภาพรถที่ผิดมีทั้งหมด 3 ภาพ คือ 1. ภาพก่อนทำผิด 2. ภาพขณะฝ่าฝืนสัญญาณไฟ และ 3. ภาพทะเบียนรถ เมื่อได้ภาพออกมาแล้วระบบจะส่งข้อมูลเข้าไปยัง บก.02 ทางเจ้าหน้าที่จะประสานกรมการขนส่งทางบกตรวจสอบข้อมูลทะเบียน และ เจ้าของรถว่าถูกต้องตรงกันหรือไม่ จากนั้นก็จะพิมพ์หมายเรียกส่งให้เจ้าของรถมารายงานตัว เพื่อเสียค่าปรับภายใน 7 วัน”

การออกหมายเรียกดังกล่าวจะส่งทางไปรษณีย์ให้ผู้กระทำผิด หรือเจ้าของรถ มาเสียค่าปรับในความผิดตาม พ.ร.บ. จราจรทางบก ข้อหาขับรถฝ่าฝืนสัญญาณจราจรไฟสีแดงตามมาตรา 22 (2) มีโทษตามมาตรา 152 ปรับไม่เกิน 1,000 บาท (ตัดแต้ม 40 คะแนน)

ทั้งนี้ถ้าผู้กระทำผิดไม่มาก็จะอายัดทะเบียน เมื่อถึงเวลามาต่อภาษีรถประจำปี นอกจากจะต้องเสียค่าปรับความผิดขับรถฝ่าฝืนสัญญาณไฟจราจรแล้ว จะต้องเสียค่าปรับเพิ่มกรณีไม่มารายงานตัวตามหมายเรียกเพิ่มอีก กำหนดอัตราโทษปรับไม่เกิน 1,000 บาท

สำหรับ ระบบเรดไลท์ คาเมร่า ในพื้นที่กรุงเทพฯที่ใช้งานได้จริงมีเพียงแค่ 30 จุด (ทางแยก) ผบช.น.จะเร่งดำเนินการติดตั้งใน 60 ทางแยก ในวงเงินงบประมาณ 33 ล้านบาท เพื่อการแก้ไขปัญหาจราจรแบบเป็นคณิตศาสตร์ และ วิทยาศาสตร์ที่สามารถตอบโจทย์ได้ทุกข้อต่อไป นอกจากนี้จะเร่งนำใบสั่งอิเล็กทรอนิกส์ที่ประมวลผลได้ทันที มาใช้กับสถานีตำรวจทุกแห่ง โดยจะพัฒนาให้ทันใช้ต้นปี 2557

ร้านขายกล้องวงจรปิดกรุงเทพ ผบช.น.จ่อติดเรดไลท์ คาเมลล่าตรวจจับความผิดอีก 60 แยกทั่วกรุง

ระบบเรดไลท์ คาเมร่าใน 30 จุดที่ใช้งานมาตั้งแต่วันที่ 27 ธ.ค.2551 สามารถทำงานตรวจจับรถฝ่าไฟแดงทั้ง 30 ทางแยกได้อย่างมีประสิทธิภาพเต็มระบบ โดยในเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา สามารถตรวจจับ และ ส่งหมายเรียกให้ผู้กระทำผิดมาเสียค่าปรับได้ 9,983 ราย ซึ่งยังถือว่าน้อยเมื่อเทียบกับตอนที่เริ่มใช้ระบบแรกๆ ที่มีผู้กระทำความผิดเฉลี่ยมากถึง 20,000-30,000 ราย โดยเหตุผลหลักอาจเป็นเพราะผู้ขับขี่ทราบว่ามีการติดตั้งกล้องที่จุดใด ทำให้มีการระมัดระวังไม่ฝ่าฝืน

กล้องเรดไลท์ คาเมร่า 30 ทางแยกที่กล่าวถึงประกอบด้วย 1. แยกรัชดาฯ-ลาดพร้าว 2. แยกบ้านม้า 3. แยกคลองตัน 4. แยกอโศกเพชร 5. แยกวิทยุ-เพลินจิต 6. แยกซังฮี้ 7. แยกพญาไท 8. แยกโชคชัย 4 9. แยกนิด้า 10. แยกอุรุพงษ์ 11. แยกประดิพัทธ์ 12. แยกรัชดาฯ-พระราม 4 13. แยกลำสาลี 14. แยกบ้านแขก15. แยกบางพลัด 16. แยกนรินทร 17. แยกราชประสงค์ 18. แยกอโศกสุขุมวิท 19. แยกสาทร 20. แยกตากสิน 21. แยกโพธิ์แก้ว 22. แยกพัฒนาการ-ตัดรามฯ 24 23. แยกร่มเกล้า 24. แยกศุลกากร 25. แยกเหม่งจ๋าย 26. แยกท่าพระ 27. แยกประเวศ 28. แยกอังรีดูนังต์ 29. แยกประชานุกูล และ 30. แยกบางโพ.

ดังนั้นถือว่าเป็นเรื่องที่ดีที่เทคโนโลยีเข้าช่วยให้ผู้ขับขี่เคารพกฎจราจรมากขึ้น ลดปัญหาการจราจรในช่วงติดขัดคับคั่ง และ ลดการเกิดอุบัติเหตุจากการฝ่าสัญญาณไฟแดงได้มากทีเดียว โครงการเรดไลท์ คาเมร่าที่จะติดตั้งเพิ่มเติมในเฟสต่อไป ผบช.น.อยู่ประสานกับ กทม.ให้ช่วยจัดสรรงบประมาณมาติดตั้ง

โดยในงบประมาณปี 2557 กทม.จะจัดสรรงบให้ บก.จร.ใช้ดำเนินการติดตั้งระบบเรดไลท์ คาเมร่าในอีก 33 ล้านบาท เพิ่มเติมอีก 60 ทางแยก หาก กทม. อนุมัติ และ ติดตั้งเสร็จเมื่อไหร่รับรองว่าตำรวจจับปรับกันสนุก 90 แยกทั่วกรุง แต่ผู้ฝ่าฝืนกฎจราจรสิต้องจ่ายค่าปรับกันอ่วมแน่ๆ

Related link :Hiview กล้องวงจรปิด กับการท่องเที่ยวอย่างไรให้ปลอดภัย

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *