การจัดการเคลื่อนย้ายอากาศด้วยปริมาณที่กำหนดให้ไหลไปในทิศทางและด้วยความเร็วที่ต้องการ การระบายอากาศเป็นการควบคุมมลพิษทางอากาศ
โดยปกติคนเราจะหายใจเอาอากาศเข้าไปด้วยอัตราประมาณ 6 ลิตรต่อนาทีแต่ถ้าทำงานหนักจะใช้อากาศ 50 ลิตรต่อนาที การระบายอากาศเป็นวิธีการที่ใช้
สอบถามข้อมูล สั่งซื้อ ขอใบเสนอราคา
HOT LINE : 081-700-4715, 089-815-7321, 081-721-5542
วิธีติดกล้องวงจรปิด
เพื่อป้องกันอันตราย / และหรือความเดือดร้อนรำคาญ ซึ่งอาจเกิดขึ้นกับผู้ทำงาน แบ่งออกเป็น 2 ชนิด ได้แก่
1. การระบายอากาศแบบทั่วไป
จะใช้หลักการถ่ายเทอากาศให้ออกจากที่อับอากาศนั้น ๆ แล้วให้อากาศบริสุทธิ์เข้ามาแทนที่ เพื่อลดความเข้มข้นของสารมลพิษ แบ่งเป็น 2 ชนิดคือ
การระบายอากาศโดยวิธีกล เช่น ใช้พัดลมระบายอากาศ การระบายอากาศโดยวิธีธรรมชาติ เช่น ช่องลมระบายอากาศ
หลักในการพิจารณาเพื่อใช้วิธีการการระบายอากาศแบบทั่วไป
- ผู้ทำงานไม่ควรอยู่ใกล้แหล่งกำเนิดของสารปนเปื้อนมากจนเกินไป และสารปนเปื้อนมีอยู่ในระดับต่ำและมีความเป็นพิษไม่สูงมาก
- การระบายอากาศแบบทั่วไปจะให้ออกซิเจนเข้าไปแทนที่สารพิษที่มีความเป็นพิษไม่สูงให้มีเจือจางลง
- ถ้าใช้วิธีการระบายอากาศแบบทั่วไปในพื้นที่ทำงานที่มีอันตรายเฉพาะอย่าง ควรมีมาตรการควบคุมเพิ่มเติม เช่น การตรวจติดตามอากาศภายในที่ทำงานอย่างต่อเนื่อง,
ใช้อุปกรณ์ป้องกันระบบทางเดินหายใจและต้องมีการระบายอากาศอย่างต่อเนื่อง
2. การระบายอากาศแบบเฉพาะแห่ง
เพื่อเป็นการป้องกันอันตรายต่อสุขภาพ และควบคุมปัญหาเดือดร้อนรำคาญภายในที่อับอากาศ แต่มีหลักและวิธีการแตกต่างออกไป การแบบเฉพาะที่อาศัยหลักการดูดระบายมลพิษ
พร้อมทั้งอากาศที่ถูกปนเปื้อนออกจากบริเวณที่เป็นจุดกำเนิดโดยตรงก่อนที่มลพิษนั้นจะเข้าปนเปื้อนกับอากาศส่วนใหญ่ของห้อง
ด้วยการทำงานของ “ระบบ” ซึ่งประกอบด้วยองค์ประกอบที่สำคัญ 3 ส่วนคือ ท่อดูดอากาศ ท่อลม และพัดลม นอกจากองค์ประกอบนี้แล้วยังมีระบบอุปกรณ์ควบคุมมลพิษติดตั้งอยู่ด้วยในกรณีที่จำเป็น
หลักในการพิจารณาเพื่อเลือกใช้วิธีการระบายอากาศแบบเฉพาะแห่ง
- ใช้กับการทำงานที่มีประกายไฟ ความร้อน หรืองานประเภทการใช้สารตัวทำละลายทำความสะอาด
- ให้ท่อดูดอากาศอยู่ใกล้กับจุดกำเนิดให้มากที่สุด
- ถ้าพื้นที่ทำงานมีสารปนเปื้อนฟุ้งกระจายในแนวกว้าง การใช้หลักการระบายอากาศแบบเฉพาะแห่งทำงานได้ไม่ดี ควรใช้การระบายอากาศแบบทั่วไปแทน
ข้อมูลที่ควรคำนึงถึงสำหรับการออกแบบระบบระบายอากาศ
- รู้แหล่งกำเนิดของมลพิษที่เกิดขึ้น
- รู้ชนิดและคุณสมบัติของมลพิษที่มีความจำเป็นต้องขจัดออก
- รู้ความเข้มข้นของปริมาณมลพิษ
- รู้ค่ามาตรฐานี่ใช้สำหรับการควบคุมมลพิษนั้นๆ
- รู้ลักษณะการแพร่กระจายของมลพิษ
แนวทางการระบายอากาศในที่อับอากาศ
- เริ่มทำการระบายอากาศก่อนที่จะเข้าไปทำงนในที่อับอากาศ
- ทำการตรวจวัดสภาพบรรยากาศก่อนเข้าไปทำงานเพื่อให้มั่นใจว่าระบบระบายอากาศได้และมีสภาพบรรยากาศมีความปลอดภัยที่จะเข้าไปทำงานได้
- ทำการระบายอากาศในที่อับอากาศต่อเนื่องตลอดเวลาที่มีการทำงานในที่อับอากาศอย่างน้อยต้องมีระดับก๊าซออกซิเจนที่เพียงพอและสารปนเปื้อนอยู่ในระดับที่ปลอดภัยไม่เป็นอันตรายต่อผู้ทำงาน
- ถ้าภายในที่อับอากาศมีการปฏิบัติงานที่ก่อให้เกิดบรรยากาศอันตราย ให้ทำการระบายอากาศอย่างต่อเนื่อง
วิธีการระบายอากาศในที่อับอากาศแบ่งออกเป็น 2 วิธี ได้แก่
- การระบายอากาศโดยการดูดอากาศที่เป็นพิษ สารปนเปื้อนออกไปจากที่อับอากาศ
- การระบายอากาศโดยวิธีการเป่าอากาศบริสุทธิ์เข้าไปในที่อับอากาศ
ความปลอดภัยในการระบายอากาศ
- ใช้วิธีการระบายอากาศบริสุทธิ์เข้าไปแทนที ไม่ใช่วิธีการพ่นก๊าซออกซิเจนเข้าไปแทนที่สารปนเปื้อนในที่อับอากาศ
- ต่อสายดินอุปกรณ์ไฟฟ้าที่ใช้ในการระบายอากาศ
- ใช้อุปกรณ์แสงสว่างหรืออุปกรณ์ไฟฟ้าที่ป้องกันการระเบิด
- แหล่งที่ดูดอากาศจากภายนอกเข้าสู่ภายในที่อับอากาศต้องอยู่ห่างจากพื้นที่มีอากาศไม่บริสุทธิ์ มีสารปนเปื้อน สารไวไฟ และสารพิษ เป็นต้น
- ระบบระบายอากาศอาจก่อให้เกิดการปนเปื้อนของอากาศเสียที่ปล่อยออกมา จึงต้องทำการดังนี้
- ทำการติดตั้งท่อระบายอากาศออกสู่ภายนอกโดยคำนึงถึงไม่ให้สารปนเปื้อนดูดย้อนกลับเข้าไปในที่อับอากาศได้อีก
- อากาศเสียอาจต้องถูกกรองก่อนที่จะปล่อยออกสู่บรรยากาศภายนอกเพื่อป้องกันอากาศเป็นพิษ
- ถ้าบรรยากาศในที่อับอากาศเป็นสารไวไฟ ควรทำการย้ายแหล่งกำเนิดที่ก่อให้เกิดประกายไฟหรือความร้อนออกจากที่อับอากาศ
ปัญหาที่ทำให้การระบายอากาศไม่มีประสิทธิภาพ
- มีการไหลเวียนของอากาศที่มีสารปนเปื้อนกลับเข้าไปในที่อับอากาศ
- มีการหมุนเวียนของอากาศในช่วงระยะสั้นๆ โดยอากาศบริสุทธิ์ไม่ได้ไหลผ่านเข้าไปสู่พื้นที่ที่อับอากาศ
ถ้าพบเจอกับปัญหาดังกล่าวควรทำ ดังนี้
- ใช้อุปกรณ์ระบายอากาศที่มีกำลังเพียงพอในการถ่ายเทอากาศ
- อุปกรณ์ที่ใช้ในการระบายอากาศต้องมีกำลังมากพอที่จะปล่อยอากาศให้ไกลพอที่จะทำให้เกิดการระบายได้ครอบคลุมพื้นที่ทั้งหมดของที่อับอากาศ
- อุปกรณ์ระบายอากาศมีประสิทธิภาพเพียงพอที่จะดูดสารปนเปื้อนออกจากที่อับอากาศ
- การติดตั้งพัดลมเพื่อดูดอากาศหลายๆ ชุด จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการดูดอากาศในระยะไกลๆ ได้ดี
- ตำแหน่งที่ติดตั้งช่องดูดอากาศเข้าและออกควรมีระยะห่างที่มีความเหมาะสม
- การใช้ท่อระบายอากาศให้มีประสิทธิภาพ
- ติดตั้งท่อที่ไม่ก่อให้เกิดการกีดขวางการทำงาน และท่อจะไม่ได้รับความเสียหายจากการใช้เครื่องมือในการทำงาน
- รักษาสภาพท่ออากาศให้อยู่ในสภาพที่ตรงมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ไม่โค้งงอ และท่ออาจจะมีสภาพยืดยื่นได้ดีและสามารถสอดเข้าไปในที่อับอากาศได้ดีด้วย
- ทำการขันข้อต่อท่อดูดอากาศให้กระชับ แน่นหนา
วิธีที่ดีที่สุดในการนำอากาศบริสุทธิ์เข้าไปในสถานที่ทำงานได้อย่างต่อเนื่องคือการใช้พัดลมดูดอากาศ เพื่อขจัดอากาศที่มีสิ่งปนเปื้อนออกจากสถานที่ทำงาน
และเพื่อรักษาระดับออกซิเจนในอากาศ การระบายอากาศที่เหมาะสมจะช่วยเพิ่มความปลอดภัยของพนักงาน พัดลมดูดอากาศทำงานโดยการดูดอากาศจากที่หนึ่ง
อัดอากาศและปล่อยเข้าไปในสถานที่อับอากาศภายใต้ความดันและความเร็วลมที่คงที่
กระบวนการนี้จะทำให้อากาศบริสุทธิ์ไหลเข้าไปในพื้นที่และขับไล่อากาศที่มีสิ่งปนเปื้อนออกมา เมื่อมีการตัดสินใจจะใช้พัดลมดูดอากาศในสถานที่ทำงาน
การเลือกพัดลมที่เหมาะกับการใช้งานจึงเป็นสิ่งที่จำเป็นต้องคำนึงถึง เพราะพัดลมดูดอากาศไม่ได้มีแต่เพียงขนาดเดียว ผู้ใช้ไม่สามารถเลือกได้โดยเพียงแค่เห็น
การเลือกจำเป็นต้องมีความรู้พอสมควร ว่าจะเลือกแบบใดรุ่นใดใช้แก๊สหรือใช้ไฟฟ้า ความเร็วลมเท่าใด สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่ต้องคำนึงถึงก่อนเลือกพัดลม
อุปกรณ์เร่งความดันอากาศ
ทำหน้าที่เหนี่ยวนำอากาศให้เคลื่อนไหวไปในแนวของอุปกรณ์เพื่อเพิ่มแรงลม โดยอุปกรณ์นี้จะทำงานโดยเพียงแค่ใช้ท่ออากาศที่มาจากเครื่องอัดอากาศไหล
สู่อุปกรณ์ในส่วนฐานของอุปกรณ์จะทำหน้าที่ควบคุมลมเคลื่อนที่ออกมาผ่านช่องลมที่ออกแบบมาเพื่อเพิ่มความแรงอากาศ
อุปกรณ์นี้เหมาะสำหรับใช้ในสถานที่อันตรายหรือเสี่ยงต่อการเกิดประกายไฟ เนื่องจากไม่มีส่วนใดที่เคลื่อนไหวในอุปกรณ์ โดยการใช้งานควรมีกายึดกับพื้น
และมีการเชื่อมต่อให้มั่นคง เพื่อป้องกันการเกิดการสะสมของประจุไฟฟ้าสถิตย์
เครื่องอัดอากาศ
โดยทั่วไปการใช้เครื่องอัดอากาศจะใช้ในกรณีที่สถานที่ทำงานมีข้อจำกัดในการเข้าถึง หรือมีทางเข้าที่เล็ก ท่ออากาศปกติเข้าไม่ได้ จำเป็นต้องใช้ท่อที่มีขนาดเล็ก
การใช้เครื่องอัดอากาศนี้มีข้อจำกัด เช่น ห้ามใช้ในสถานที่ที่เสี่ยงต่อการติดไฟ เพราะเป็นแหล่งที่อาจทำให้เกิดประกายไฟได้
Related link : ระบบรักษาความปลอดภัยรั้วไฟฟ้า สัญญาณกันขโมยไร้สาย
สอบถามข้อมูล สั่งซื้อ ขอใบเสนอราคา