ติดตั้งกล้องวงจรปิดไร้สาย

ติดตั้งกล้องวงจรปิดไร้สาย และสื่ออุปกรณ์การรับส่งข้อมูล

ระบบเครือข่ายไม่อาจมีประสิทธิภาพได้ หากไม่มีสื่อที่ใช้ในการส่งสัญญาณ การรับส่งข้อมูล ที่ดีและเหมาะสมกับระบบเครือข่ายนั้น ๆ การที่เครื่องคอมพิวเตอร์เครื่องใดเครื่องหนึ่งจะส่งข้อมูลถึงอีกเครื่องหนึ่ง

คอมพิวเตอร์นั้น ๆ จะต้องมีการเชื่อมต่อด้วยสื่อนำสัญญาณชนิดใดชนิดหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นแบบสื่อที่มีสายและแบบสื่อไร้สายขึ้นอยู่กับกล้องวงจรปิด cctv ติดตั้งเองของเราว่าทำอะไรเองได้บ้าง

 

สอบถามข้อมูล  สั่งซื้อ ขอใบเสนอราคา

Line: @cctvbangkok.com
ติดต่อทางเมลส์
ติดต่อเฟสบุค
ติดต่อยูทูป

HOT LINE : 081-700-4715, 089-815-7321, 081-721-5542

ติดตั้งกล้องวงจรปิดไร้สาย

imou



สื่อนำสัญญาณในปัจจุบันมีมากมายหลายชนิดโดยจะมีข้อดีและข้อเสียแตกต่างกันไป ตามแต่ความต้องการของผู้ใช้

คุณสมบัติของสื่อสัญญาณ

การตัดสินใจว่าจะเลือกสื่อสัญญาณประเภทใดในการเชื่อมต่อระบบเครือข่าย จะต้องทราบว่าสื่อแต่ละประเภทมีคุณสมบัติอย่างไร เพื่อจะได้สามารถเลือกใช้สื่อได้อย่างถูกต้อง

ซึ่งสิ่งที่จะต้องพิจารณานั้นมีหลายอย่าง เช่น ต้นทุน วิธีการติดตั้งแบนด์วิธ การใช้งานช่องสัญญาณ  การลดทอนของสัญญาณ การเหนี่ยวนำทางไฟฟ้าของสนามแม่เหล็ก เป็นต้น

ต้นทุน (Cost)

ถือเป็นปัจจัยหลักของสื่อสัญญาณที่ต้องคำนึงถึงในการเลือกใช้สื่อสัญญาณบ่อยครั้งที่สื่อที่มีความเร็วสูงสุดไม่ได้ถูกเลือก เพราะมีสื่ออื่นที่ช้ากว่าไม่มากนักแต่ราคาถูกกว่ามาก

นั่นก็เพราะว่าราคาคือสิ่งที่ถูกใช้ในการพิจารณาว่าเหมาะสมกับการใช้งานในองค์กรหรือไม่ หากลงทุนมากเกินไปก็อาจจะไม่คุ้มทุนได้ อุปกรณ์คอมพิวเตอร์มักจะมีการพัฒนาความเร็วให้สูงขึ้นเสมอ

พวกนี้ก็มักจะมีราคาแพง แต่ถ้ามีการใช้งานมากขึ้น มีการผลิตมากขึ้น ก็จะทำให้ราคาลดลงตามด้วย แต่มักจะเลือกใช้เทคโนโลยีที่ไม่นำสมัยมีผลต่อราคาติดตั้งกล้องวงจรปิด

ด้วยเหมือนกัน แต่ได้รับความนิยมจากผู้ใช้จำนวนมากแทนเพราะสามารถหาซื้อได้ง่ายและราคาถูกกว่า

 

สอบถามข้อมูล  สั่งซื้อ ขอใบเสนอราคา

Line: @cctvbangkok.com
ติดต่อทางเมลส์
ติดต่อเฟสบุค
ติดต่อยูทูป

HOT LINE : 081-700-4715, 089-815-7321, 081-721-5542

 

การติดตั้ง (Installation Requirements)

โดยทั่วไปวิธีการติดตั้งมักจะขึ้นกับปัจจัยหลัก 2 อย่าง คือ

  1. สื่อสัญญาณบางประเภทต้องการช่างรับติดตัังกล้องวงจรปิดไร้สาย ที่ชำนาญงานเป็นผู้ติดตั้งหรืออุปกรณ์ติดตั้งโดยเฉพาะที่มีราคาแพงมาก เช่น สายใยแก้วนำแสง

    ผลกระทบที่เกิดขึ้นก็คือ จะต้องใช้เวลานานและค่าติดตั้งก็จะแพงด้วย เพราะค่าแรงแพงอย่างราคาติดตั้งกล้องวงจรปิด 2 ตัว กับ ราคาติดตั้งกล้องวงจรปิด 16 ตัว

    ก็จะใช้วิธีติดตั้งกล้องวงจรปิด ที่ไม่เหมือนกัน วัสดุอุปกรณ์ติดตั้งก็ต่างกัน หรือราคาติดตั้งกล้องวงจรปิด 8 ตัว อาจจะสูงกว่า 16 ตัวก็ได้

  2. การวางตำแหน่งของจุดกระจายในระบบเครือข่าย เพื่อจะได้สามารถนำเครื่องลูกข่ายมาใช้งานได้ในที่ต่าง ๆ จะเห็นได้ว่าปัจจุบันการจัดที่นั่งทำงานในสำนักงานอาจมีการย้ายตำแหน่งของโต๊ะทำงาน

    เพื่อให้เกิดความเหมาะสม หากมีการวางสายแลนเชื่อมกับโต๊ะทำงาน ก็จะไม่เหมาะสมกับองค์กรลักษณะนี้ ควรจะเลือกใช้แบบฝังหัวต่อ RJ45 หรืออาจจะเลือกใช้ระบบแลนแบบไร้สายแทนก็ได้

แบนด์วิธ (Bandwidth)

เครื่องมือวัดความจุในการส่งข้อมูลของสื่อสัญญาณ หากมีความจุมากก็จะเรียกว่าแบนด์วิธกว้าง ถ้ามีความจุน้อยก็จะเรียกว่าแบนด์วิธแคบ ความจุในการส่งข้อมูล หรืออัตราเร็วในการส่งข้อมูล

จะวัดเป็นจำนวนบิตต่อวินาที เช่น ระบบเครือข่ายแบบอีเธอร์เน็ต ก็มีแบนด์วิธที่สามารถรองรับได้ทั้ง 10 Mbps เป็นต้น หากต้องใช้งานแบบใดก็จะต้องเลือกให้ถูกต้อง

กล้องวงจรปิดพร้อมติดตั้งราคา ต่อชุดส่วนมากกินแบนด์วิธไม่มากนักอย่างกล้อง IP กินอยู่ประมาณ 2 Mbps เพราะสื่อสัญญาณและอุปกรณ์เครือข่ายที่ใช้จะต้องสัมพันธ์กันด้วย

หรือบางครั้งความยาวของสายเองก็มีส่วนเกี่ยวข้องกับขนาดของแบนด์วิธด้วยเช่นกัน คือ ถ้าสายยาวมากก็จะมีแบนด์วิธที่แคบกว่า กล้องวงจรปิดราคาถูกติดตั้งเองส่วนมากจะเป็นแบบไร้สาย

ซื่งระยะการส่งสัญญาณก็ไม่ควรไกลมากเหมือนกัน เพราะคุณสมบัติของสายที่ใช้นั้นจะลดลงเมื่อสายยาวมากขึ้นนั่นเองทำให้สายสื่อสัญญาณจะต้องมีการกำหนด

ว่าไม่ควรใช้งานยาวเกินกว่าค่าที่มาตรฐานกำหนด หากจะใช้ยาวเกินที่มาตรฐานกำหนด จะต้องยอมรับได้ว่าแบนด์วิธที่ได้รับจะต้องลดลง หรือจะใช้ได้ไม่เต็มที่

 

สอบถามข้อมูล  สั่งซื้อ ขอใบเสนอราคา

Line: @cctvbangkok.com
ติดต่อทางเมลส์
ติดต่อเฟสบุค
ติดต่อยูทูป

HOT LINE : 081-700-4715, 089-815-7321, 081-721-5542

 

ข้อแตกต่างระหว่าง Bit Rate กับ Baud Rate

Bit Rate หมายถึงการกำหนดความเร็วใน การรับส่งข้อมูล เป็น บิต / วินาที ซึ่งแตกต่างจากการเปลี่ยนแปลงสัญญาณไฟฟ้าในสายส่งหรือที่ เรียกว่า Baud Rate ในสมัยก่อน

การรับส่งข้อมูล ใช้เทคนิคผสมสัญญาณแบบง่าย ๆ ต่อมาเทคนิคการผสมสัญญาณซับซ้อนมากขึ้น ทำให้สามารถส่งข้อมูลได้มากกว่าเดิม

โดยอัตราการเปลี่ยนแปลงของสัญญาณในสายส่งยังคงเท่าเดิม จึงเลิกใช้คำว่า Baud  Rate สำหรับบอกความเร็ว การรับส่งข้อมูล ของอุปกรณ์สื่อสัญญาณและหันมาใช้คำว่า Bit Rate หรืออัตราการส่งข้อมูลเป็นบิตต่อวินาทีแทน

 

IP Camera IMOU

การใช้งานช่องสัญญาณ (Band Usage)

ในการจัดการกับความจุของสื่อที่ใช้ในการส่งสัญญาณนั้นจะมีวิธีแบ่งเป็น 2 แบบ คือ เบสแบนด์ และ บอร์ดแบนด์

อุปกรณ์ติดตั้งกล้องวงจรปิด และสื่ออุปกรณ์การรับส่งข้อมูล

  1. เบสแบนด์ (Baseband) คือ การใช้ความจุของสื่อสัญญาณเพื่อใช้ในการส่งเพียงช่องสัญญาณเดียว เบสแบนด์มักจะได้รับความนิยมในการนำมาใช้งานในระบบเครือข่าย

    ซึ่งการส่งเบสแบนด์นั้นอาจจะเป็นแบบอนาล็อก หรือดิจิตอลก็ได้ขึ้นอยู่กับการติดตั้งกล้องวงจปริด CCTV

  2. บอร์ดแบนด์ (Broadband) คือ การใช้ความจุของสื่อสัญญาณเดียวเพื่อใช้ในการส่งได้หลาย ๆ ช่องสัญญาณ เรียกว่าการกระจายการใช้แบนด์วิธนั่นเอง

    แบนด์นั้นจะพบเห็นในชีวิตประจำวันของเราโดยไม่รู้ตัว เทคนิคในการแบ่งแบนด์วิธด้วยการใช้ความถี่ที่แตกต่างกันนี้ เรียกว่า FDM ซึ่งจะทำได้เฉพาะแบบอนาล็อกเท่านั้น เทคนิคอื่น ๆ

    ที่มักจะกล่าวถึงในการแบ่งของสัญญาณก็คือ การแบ่งช่วงเวลาที่เรียกว่า TDM เพราะว่าในเวลาหนึ่ง ๆ นั้นสามารถที่จะแบ่งกันส่งหลาย ๆ คนไปพร้อม ๆ กันก็ได้ ซึ่งวิธีนี้มักจะใช้กับแบบดิจิตอลในปัจจุบันหรือตั้งกล้องวงจรปิดดูผ่านเน็ต

สอบถามข้อมูล  สั่งซื้อ ขอใบเสนอราคา

Line: @cctvbangkok.com
ติดต่อทางเมลส์
ติดต่อเฟสบุค
ติดต่อยูทูป

HOT LINE : 081-700-4715, 089-815-7321, 081-721-5542

 

การลดทอนของสัญญาณ (Attenuation)

โดยเป็นการวัดว่าสัญญาณที่เดินทางไปในสื่อสัญญาณนั้นอ่อนลงไปเท่าใด ปัจจัยหนึ่งที่เป็นเหตุให้ต้องมีการกำหนดความยาวของสายบวกกับราคาติดตั้งกล้องวงจรปิด 4 ตัว หรือกล้องวงจรปิดพร้อมติดตั้ง

ไม่ให้ใช้เกินมาตรฐาน เพราะเมื่อสัญญาณเดินทางผ่านสื่อไปได้ระยะหนึ่งแล้วสัญญาณก็จะมีความอ่อนแรงลง เนื่องจากสัญญาณรบกวนเข้ามาแทรก ทำให้สัญญาณผิดเพี้ยนไปจากเดิม

คุณสมบัติทางไฟฟ้าเองที่จะอ่อนแรงลงเมื่อส่งออกไปไกลทำให้อุปกรณ์ปลายทางไม่สามารถรับข้อมูลที่ต้นทางตั้งใจจะส่งมาได้

การลดทอนของสัญญาณอาจจะเกิดขึ้นจากสาเหตุดังต่อไปนี้

  1. Attenuation Distortion จะมีสัดส่วนผกผันกับความถี่ที่ใช้ทางแก้ปัญหา เพื่อขยายสัญญาณให้มีขนาดใหญ่ขึ้น หรือสร้างสัญญาณขึ้นมาใหม่

    โดยที่จะมีการคำนวณแล้วว่าด้วยเทคนิคในการส่งแบบใดจะต้องมีการขยายสัญญาณใหม่ระยะทางเท่าใด หากต้องการส่งในระยะทางไกล ๆ

    ก็ต้องมีการขยายสัญญาณใหม่หลายครั้งอันนี้ต้องได้รับการสอนติดตั้งกล้องวงจรปิดด้วยเหมือนกัน

  2. Delay Distortion ในแต่ละความถี่มีความเร็วในการเคลื่อนที่ไม่เท่ากัน จึงไปถึงปลายทางด้วยความเร็วไม่เท่ากันส่วนมากปัญหาเกิดจากช่างติดตั้งกล้องวงจรปิด

    หรือลูกค้าซื้อกล้องวงจรปิดติดตั้งเอง แล้วเกิดปัญหาก็ได้ ทำให้สัญญาณที่ได้รับที่ปลายทางไม่ถูกต้อง ทางแก้ปัญหา จะต้องทำการคำนวณว่าสัญญาณแต่ละตัวมีความเร็วแตกต่างกันเท่าใด

    แล้วทำการหน่วงเวลาตัวที่ถึงเร็วกว่าให้เกิดขึ้นพร้อมกับตัวที่มาถึงช้ากว่า เพียงเท่านี้ก็จะเหมือนกับว่าสัญญาณทุกตัวเดินทางมาถึงปลายทางพร้อมกัน

  3. Noise เป็นสัญญาณที่ไม่มีใครต้องการ การติดตั้งกล้องวงจรปิดด้วยตัวเองต้องระวังหให้มาก ๆ แต่มักจะเกิดขึ้นอย่างไม่สามารถคาดคิดได้ อยู่นอกเหนือการควบคุมและไม่สามารถกำจัดได้

    มักจะเกิดขึ้นตลอดเวลา ทางแก้ปัญหา จากสัญญาณประเภทนี้เราไม่สามารถควบคุมได้ แต่ว่าเราสามารถคำนวณได้ว่าสัญญาณประเภทนี้นั้น จะมีระดับความแรงของสัญญาณเท่าไร

    เราสามารถสร้างสัญญาณที่มีความแรงมากกว่าในการส่ง ทำให้สัญญาณที่รบกวนไม่มีผลต่อข้อมูลที่ส่ง วิธีการนี้ก็คือการทำให้ S/N มีค่าสูง ๆ นั่นเองติดตั้งระบบกล้องวงจรปิดต้องเช็คระยะสายด้วย

  4. Impulse Noise เป็นสัญญาณที่ไม่สามารถคำนวณได้ว่าจะเกิดขึ้นเมื่อใด มีความแรงของสัญญาณเท่าใดก็ไม่สามารถควบคุมหรือป้องกันได้มักจะเกิดขึ้นในช่วงสั้น ๆ

    แต่มีความรุนแรงมาก จะมีผลกระทบมากกับสัญญาณที่ส่งที่ความเร็วสูง ๆ เพราะว่าการส่งที่ความเร็วสูง ๆ จะใช้เวลาที่สั้น แม้ว่าสัญญาณรบกวนประเภทนี้จะเกิดขึ้นในช่วงสั้น ๆ ก็ตาม

    ก็จะมีผลต่อสัญญาณที่ส่งโดยตรงเห็นได้บ่อยกับการติดตั้งกล้องวงจรปิดดูผ่านเน็ต

  5. การรบกวนจากการเหนี่ยวนำทางไฟฟ้าของสนามแม่เหล็ก เกิดจากสนามแม่เหล็กภายนอกมารบกวนสัญญาณที่ส่งมาตามสื่อสัญญาณ เช่น เวลาที่เราฟังวิทยุแล้วได้ยินเสียงกวนแทรกเข้ามา เป็นต้น

  6. การรบกวนครอสทอล์ก (Crosstalk) เป็นการรบกวนประเภทหนึ่งที่เกิดจากการเหนี่ยวนำของสายอื่นที่อยู่ใกล้เคียงกัน เช่น กำลังคุยโทรศัพท์อยู่แล้วได้ยินเสียงของคนที่ไม่รู้จักแทรกเข้ามา เป็นต้น

    ครอสทอล์กเป็นระบบเครือข่ายเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นได้หากไม่มีการระมัดระวังดีพอ เพราะในระบบขนาดใหญ่มักจะมีการเดินสายเคเบิลเอาไว้ด้วยกันจำนวนมาก

    และบางแห่งที่ต้องการประหยัดมาก ๆ อาจจะเดินสายไฟฟ้าคู่ไปกับสื่อสารก็ได้ก็สามารุทำให้เกิดการรบกวนได้ง่ายการติดตั้งกล้องวงจรปิดด้วยตัวเองต้องคอยสังเกตุให้ดี

ช่างติดตั้งกล้องวงจรปิด

ประเภทของสื่อนำสัญญาณ

สื่อนำสัญญาณ (Transmission Media หรือ Medium) มีการจัดแบ่งประเภทตามคุณลักษณะในการทำงานของสื่อที่ใช้เป็น 2 ประเภท คือ

  1. สื่อประเภทเหนี่ยวนำ (Guided Media) หรือสื่อแบบมีสาย สามารถแบ่งออกตามลักษณะของสัญญาณที่ใช้ในการส่งได้เป็น 2 แบบ คือ

    • สัญญาณแสง จะใช้ที่เป็นสายใยแก้วนำแสงในการส่งสัญญาณ ข้อดี สายใยแก้วนำแสงมีน้ำหนักเบา มีแบนด์วิธที่กว้างมาก ข้อเสีย ราคาของสายใยแก้วนำแสงค่อนข้างแพง

      การต่อสายทำได้ยากต้องอาศัยความชำนาญ และเครื่องมือพิเศษที่มีราคาแพงค่าติดตั้งกล้องวงจรปิดจุดละเท่าไหร่ ไม่สำคัญกว่าเราต้องเดินสายไกลกว่าเท่าไหร

    • สัญญาณไฟฟ้า จะใช้สื่อที่เป็น Copper Wire ในการส่งสัญญาณ แบ่งได้เป็น 2 ประเภท คือ สายตีเกลียว สายทองแดงหุ้มฉนวนนำมาตีเกลียวเพื่อให้เกิดการหักล้างของสนามแม่เหล็ก

      ที่เกิดจากการเหนี่ยวนำทางไฟฟ้าอันเกิดจากการไหลของกระแสไฟ เพื่อให้คุณสมบัติในการส่งสัญญาณดีขึ้น แล้วก็ใช้ชนวนหุ้มอีกชั้นเพื่อป้องกันสัญญาณรบกวนจากภายนอกเช่น สายโทรศัพท์

      ข้อดี ราคาของสายตีเกลียวราคาถูกมาก ข้อเสีย สายตีเกลียวมีแบนด์วิธที่น้อย และมีโอกาสเกิดความผิดพลาดของสัญญาณได้มาก และอีกชนิดหนึ่งคือ

      สายโคเอ็กเชียล มีลักษณะเป็นสายทองแดงขนาดใหญ่เป็นแกน แล้วมีฉนวนหุ้มสลับกับตัวนำ 2 ชั้น เช่น สายอากาศโทรทัศน์ ข้อดี มีแบนด์วิธที่สูง

      และเกิดความผิดพลาดของสัญญาณน้อย ส่วนข้อเสีย   ราคาของสายมีราคาแพง สายมีน้ำหนักมากไม่สะดวกในการติดตั้งมีผลต่อกล้องวงจรปิด 4 ตัวพร้อมติดตั้งราคา

      ต่างกันกับกล้องวงจรปิดปิด 8 ตัวพร้อมติดตั้งราคา ไม่เท่ากันเพราะจำนวนสายที่ใช้ต่างกันด้วย


      สอบถามข้อมูล  สั่งซื้อ ขอใบเสนอราคา

      Line: @cctvbangkok.com
      ติดต่อทางเมลส์
      ติดต่อเฟสบุค
      ติดต่อยูทูป

      HOT LINE : 081-700-4715, 089-815-7321, 081-721-5542



  2. สื่อประเภทกระจายคลื่น (Unguided Media) หรือสื่อแบบไร้สาย จะอาศัยหลักการส่งคลื่นแม่เหล็กผ่านอากาศโดยความถี่ที่นำมาใช้งานนั้นและเป็นที่รู้จักและเลือกอุปกรณ์การติดตั้งกล้องวงจรปิดให้เหมาะสม สามารถแบ่งได้ดังนี้

    • AM เช่น คลื่นวิทยุ มีข้อดีคือ สัญญาณสามารถส่งไปได้ไกล แต่ก็มีข้อเสียเช่นกัน เสียงที่ได้ยินจะไม่ชัดเจน คุณภาพจะไม่ดี เพราะการมอดูเลตนั้นจะทำให้เกิดสัญญาณรบกวนได้ง่ายกว่าแบบผ

    • FM เช่น คลื่นวิทยุ มีข้อดีคือ เสียงที่ได้ยินจะชัดกว่า แต่จะส่งได้สั้นกว่า เพราะไม่มีการขยายสัญญาณ ทำให้สัญญาณถูกลดทอนลงได้ง่ายด้วย

    • VHF เช่น โทรทัศน์จะส่งคลื่นผ่านช่วงนี้ เพราะข้อมูลที่เป็นภาพและเสียงนั้นจำเป็นต้องใช้ BW ที่กว้างมากในการส่ง

    • UHF เช่น โทรทัศน์ประเภทบอกรับสมาชิก หรือ ITV เนื่องจากสัญญาณในช่วง VHF ได้ถูกใช้จนหมดแล้ว จึงมีการขยายแถบความถี่ข้างเคียงขึ้นไปอีก เพื่อให้สามารถส่งได้มากช่องขึ้น

    • Microwave เช่น ระบบสื่อสัญญาณของระบบโทรทัศน์ในอดีตจะนิยมใช้เพราะสามารถส่งได้ไกลคราวละมาก ๆ

    • Satellite เช่น ระบบถ่ายทอดโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม ระบบโทรทัศน์ทางไกลระหว่างประเทศ เป็นต้น

    • Infrared เช่น ระบบรีโมตต่างมีข้อดีคือ ช่วยให้ไม่ต้องใช้สาย ผู้ใช้สามรถจะเดินไปที่ไหนก็ได้

    • Light เช่น สายใยแก้วนำแสง

สื่อประเภทเหนี่ยวนำ (Guided Media)

เป็นสื่อแบบใช้สาย คือสายเคเบิล และ สายใยแก้วนำแสง ซึ่งเราได้กล่าวนำไว้แล้วในเบื้องต้น

 

Hikvision Colorvu

สายเคเบิล (Cable)

สายสัญญาณหรือสิ่งที่ใช้เชื่อมต่อระหว่างเครื่องคอมพิวเตอร์กับอุปกรณ์ต่าง ๆ ในเครือข่าย และยังเป็นสื่อส่งข้อมูลที่นับว่าเก่าแก่และยังนิยมใช้กันมาก

ในปัจจุบันซึ่งลักษณะโดยทั่วไปของสายเคเบิลจะเป็นสายทองแดงหุ้มด้วยฉนวนที่มีผลต่อราคาค่าติดตั้งกล้องวงจรปิด

อุปกรณ์ติดตั้งกล้องวงจรปิด และสื่ออุปกรณ์การรับส่งข้อมูล

  1. สายคู่พันเกลียว หรือ สายคู่ตีเกลียว ที่รู้จักกันโดยทั่วไป คือ สายโทรศัพท์เป็นสายที่ใช้เดินในผนังเพื่อเชื่อมต่อโทรศัพท์เข้าไปยังชุมสายโทรศัพท์ต่าง ๆ

    ที่ให้บริการระบบโทรศัพท์ เช่น บริษัท ทศทฯ เป็นต้น ตามปกติสายเคเบิลประเภทนี้ มักจะถูกนำมาใช้ในระบบเครือข่ายแบบอีเธอร์เน็ต

    สายคู่พันเกลียวมี 2 ประเภท คือ

  • สายคู่พันเกลียวแบบไม่มีสิ่งห่อหุ้ม เป็นสายที่พบเห็นกันมาก มักใช้เชื่อมโยงคอมพิวเตอร์ ไปยังคสายมีจำนวนบิดเกลียวภายใน 4 คู่ ข้อดี มีราคาถูก ติดตั้งง่ายเนื่องจากน้ำหนักเบา

    มีความยืดหยุ่นและสามารถโค้งงอได้มาก ส่วนข้อเสีย ไม่เหมาะในการเชื่อมต่ออุปกรณ์ที่ห่างไกลมาก เพราะสัญญาณที่วิ่งบนสายจะถูกลดทอนลงไปตามความยาวของสายควรน้อยกว่า 100 ฟุต

  • สายคู่พันเกลียวแบบมีสิ่งห่อหุ้ม การนำสายคู่พันเกลียวมารวมอยู่และมีการเพิ่มชั้นป้องกันสัญญาณรบกวน ทำให้มีอิมพีแดนซ์ และเป็นสัญญาณที่ได้รับการพัฒนาต่อจากสาย

    โดยเพิ่มการชีลด์กันสัญญาณรบกวนเพื่อทำให้คุณสมบัติโดยรวมของสายสัญญาณดีมากขึ้น ข้อดี ส่งข้อมูลด้วยความเร็วสูง ป้องกันคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า

    และคลื่นวิทยุ เดินได้ไกลกว่า UTP ส่วนข้อเสีย มีขนาดใหญ่และไม่ค่อยยืดหยุ่นในการงอพับสายมากนัก ราคาแพงกว่าสาย UTP

เหตุที่ต้องพันสายให้เป็นเกลียว เนื่องจากการพันเป็นเกลียวของสายไฟนี้จะปกป้องสายสัญญาณรบกวน  และ จากสัญญาณบิดเบือน

ซึ่งถูกสร้างขึ้นมาจากแหล่งอื่นที่อยู่ใกล้เคียงกับสายเคเบิล เช่น จากแหล่งคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า และคลื่นความถี่วิทยุ เป็นต้น ส่วนจำนวนของเกลียวที่พันเข้าด้วยกัน

ขึ้นอยู่กับความสามารถในการต่อต้านสัญญาณรบกวนต่าง ๆ นำมาใช้มากในงานติดตั้งกล้องวงจรปิด ip camera

 

กล้องวงจรปิดไร้สาย

  1. สายโคเอ็กเชียล (Coaxial Cable) ส่วนประกอบมี 4 อย่าง โดยที่มีศูนย์กลางเป็นลวดทองแดงที่ทำหน้าที่เป็นสื่อนำสัญญาณห่อหุ้มด้วยชั้นของฉนวนที่ไม่เป็นสื่อนำไฟฟ้าทำจากพลาสติกพีวีซี

    ถัดจากชั้นของฉนวนจะเป็นส่วนที่ทำหน้าที่ปกป้องสายนำสัญญาณ โดยมีลักษณะเป็นโลหะ ทองแดง หรือ อะลูมิเนียมถักเป็นตะแกรง ชั้นนี้จะปกป้องสัญญาณที่ทำการส่งจากการรบกวนของคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า

    ที่เรียกว่าสัญญาณรบกวน ซึ่งจะทำให้สัญญาณถูกบิดเบือน และสุดท้าย คือ ชั้นนอกสุดเป็นสิ่งห่อหุ้มภายนอก หรือแจ๊กเก็ตที่ทำจาก PVC หรือวัสดุที่ทนไฟอย่างเทฟลอน

    นิยมมาใช้ในงานกล้องวงจรปิดติดตั้งเองราคาถูก เป็นต้น คุณลักษณะเด่นของสายโคเอ็กเชียล มีภูมิต้านทานต่อสัญญาณรบกวนโดยเฉพาะคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า

    จึงเป็นสายที่เหมาะที่จะใช้ในโรงงานอุตสาหกรรมที่มีสัญญาณรบกวนมาก เป็นสายที่นิยมใช้ในงานระบบโทโปโลยีแบบบัส เพราะการใช้แบบบัสทำให้ใช้จำนวนสายน้อยกว่าแบบสตาร์

    นอกจากนี้การใช้สายโคเอ็กเชียลยังทำให้ได้ระยะทางมากกว่า สายที่รู้จักกันดีที่สุด คือ   สายเคเบิลที่ใช้สำหรับระบบเครือข่าย Ethernet

  2. สายใยแก้วนำแสง (Fiber Optic) เป็นสายที่ปัจจุบันมีการนำมาใช้งานอย่างกว้างขวาง เพราะมีราคาถูกลงจากเดิมอย่างมาก จนสามารถนำมาเป็นสายจ่ายในแนวราบได้

    แต่เดิมสายใยแก้วเป็นสายที่เน้นเฉพาะการใช้ในส่วนของแบ๊คโบน สายใยแก้วนำแสงได้รับการนำมาใช้งานเป็นสายสัญญาณหลักของเครือข่าย ขณะนี้เส้นใยแก้วที่ใช้งานมากในระบบเครือข่าย

    จะเป็นแบบมัลติโหมดเกรดอินเด็กซ์ เส้นใยแก้วนำแสงที่ใช้งานมักมีหลายลำแสงในสายเส้นเดียวกัน เพื่อให้สะดวกต่อการใช้งาน ลักษณะของสายเส้นใยแก้วนำแสงมีลักษณะประกอบหลายอย่าง

    เพื่อกำหนดชนิดของสายใยแก้วนำแสงการติดตั้งกล้องวงจรปิด ip camera ในระยะทางไกล ๆ นิยมการใช้สาย Fiber Optic กันเป็นอันมาก
ลักษณะคุณสมบัติที่สำคัญของสายใยแก้วนำแสง

ความสำคัญของเส้นใยแก้วนำแสงมีหลายอย่างที่จะต้องพิจารณา แต่ส่วนที่สำคัญในการออกแบบ คือ อัตราการบั่นทอนสัญญาณ และ แถบกว้างทางความถี่

  • อัตราการบั่นทอนสัญญาณ ขึ้นอยู่กับระยะทางและความยาวคลื่นของแสง แสงที่ใช้จะมีความยาวคลื่นในช่วง 850 ถึง 1300 nM การสูญเสียของสัญญาณแสดงเป็นกราฟ

  • แบนด์วิธ (Bandwidth) ในการพิจารณาแถบกว้างทางความถี่ให้ดูจากพารามิเตอร์ที่แสดงว่า เมื่อใช้ความถี่การใช้งานของสัญญาณสูงขึ้นจะมีอัตราการสูญเสียสูงขึ้นเท่านั้น

  • ขนาดของเส้นใยแก้วนำแสง เป็นการพิจารณาว่าขนาดความสม่ำเสมอของใยแก้วมีเพียงใด พารามิเตอร์ส่วนนี้คล้ายกับพวกพารามิเตอร์ของสาย UTP ส่วนนี้จะมีการสูญเสียเมื่อมีการเชื่อมต่อสายสัญญาณ

  • ขอบเขตการเลือกสายสัญญาณการติดตั้งกล้องวงจรปิด ip สายสัญญาณในระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์มีให้เลือกใช้หลายอย่าง ตามาตรฐาน ที่นิยมใช้กันมากเป็นสายสัญญาณ UTP, STP และเส้นใยแก้วนำแสง

 

สื่อประเภทกระจายคลื่น (Unguided Media) หรือสื่อแบบไร้สาย

ความพิเศษของการใช้สื่อประเภทนี้ก็คือ ความสะดวกสบายในเรื่องสถานที่ตั้งและสามารถติดตั้งได้อย่างรวดเร็ว ในปัจจุบันได้รับความนิยมจากผู้ใช้การติดตั้งวงจรปิด มักจะแบ่งการใช้สื่อประเภทกระจายคลื่นเป็น 3 กลุ่มตามการใช้งาน คือ

  1. ระบบเครือข่ายไร้สายแบบท้องถิ่น (Wireless LAN) ประกอบด้วย อุปกรณ์ไร้สายตั้งแต่หนึ่งตัวขึ้นไป เพื่อรับสัญญาณจากเครื่องคอมพิวเตอร์เข้าสู่ระบบเครือข่ายท้องถิ่น

    มักจะใช้เสริมกับอุปกรณ์เครือข่ายมีสาย เพราะว่าราคาของอุปกรณ์ไร้สายยังค่อนข้างสูง

  2. ระบบเครือข่ายไร้สายแบบขยาย (Extended Local Networks) เป็นการใช้สื่อสัญญาณไร้สายเชื่อมต่อระหว่างเครือข่ายท้องถิ่น ที่ต้องการเชื่อมต่อหากันก็อาจจะใช้สื่อ

    ประเภทกระจายคลื่น เช่น ไมโครเวฟ หรือ ดาวเทียม เชื่อมระหว่างอาคาร 2 อาคาร ก็ได้

  3. ระบบโทรศัพท์เคลื่อนที่ (Mobile Computing) เป็นการใช้คอมพิวเตอร์เชื่อมต่อเข้าระบบเครือข่ายผ่านโทรศัพท์เคลื่อนที่ หรือผ่านระบบดาวเทียม VSAT เป็นต้น

 

สอบถามข้อมูล  สั่งซื้อ ขอใบเสนอราคา

Line: @cctvbangkok.com
ติดต่อทางเมลส์
ติดต่อเฟสบุค
ติดต่อยูทูป

HOT LINE : 081-700-4715, 089-815-7321, 081-721-5542

 

ประโยชน์ของเครือข่ายไร้สาย

เครือข่ายไร้สายได้ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อประโยชน์ใช้สอยดังนี้

  1. พื้นที่ใช้งานที่สามารถเดินสายเข้าไปได้ หรือทางอาคารไม่อนุญาตให้ตกแต่งเปลี่ยนแปลง เช่น ในห้องประชุม

  2. ผู้ใช้ที่มักจะย้ายตำแหน่งบ่อย หรือไม่สะดวกต่อการกำหนดตำแหน่งของสายเพราะต้องการย้ายตำแหน่งบ่อย ๆ เช่น สำนักงานที่มีการย้ายโต๊ะทำงานบ่อย ๆ เป็นต้น

  3. ติดตั้งเพื่อใช้งานเป็นการชั่วคราว เช่น สำนักงานชั่วคราว หรือสำนักงานเคลื่อนที่ เป็นต้น

  4. ผู้ใช้ที่ต้องเดินทางตลอดเวลา แต่มีความต้องการที่จะติดต่อกับเครือข่ายของบริษัท เช่น พนักงานขายที่ต้องเดินทางไปต่างจังหวัดบ่อย ๆ แต่ก็ต้องส่งรายการสั่งซื้อของลูกค้าเข้าสำนักงาน เป็นต้น

  5. ใช้งานบน เรือ หรือรถที่มีการเคลื่อนที่อยู่ตลอดเวลา

ระบบเครือข่ายสื่อสารไร้สาย (Wireless LAN)

เป็นประโยชน์อย่างมากหากเราสามารถผสมผสานเครือข่ายไร้สายเข้ากับระบบเครือข่ายท้องถิ่นแบบใช้สายเคเบิล มักจะมีการเชื่อมต่อสถานีฐานที่ทำหน้าที่ติดต่อกับเครื่องคอมพิวเตอร์เข้ากับ

อุปกรณ์เชื่อมต่อแบบมีสายอื่น ๆ เช่น ฮับ หรือสวิตช์ เพื่อเชื่อมต่อยังคอมพิวเตอร์เครื่องอื่น ๆ การนำเทคโนโลยีระบบเครือข่ายแบบไร้สายมาใช้อย่างกว้างขวางเหมาะที่จะได้ทั้งเครื่องพีซีตั้งโต๊ะธรรมดาและเครื่องโน้ตบุ๊ค

อุปกรณ์ติดตั้งกล้องวงจรปิด และสื่ออุปกรณ์การรับส่งข้อมูล

การส่งสัญญาณติดต่อกันนั้นจะใช้สัญญาณวิทยุเป็นพาหะ ความเร็วในการส่งข้อมูลจึงต้องขึ้นอยู่กับระยะทาง ระยะทางยิ่งไกลความเร็วในการส่งข้อมูลก็ช้าลงไปด้วย

ระบบเครือข่ายไร้สายเหมาะที่จะนำมาใช้งานที่ต้องการความคล่องตัวสามารถที่จะเคลื่อนที่ไปที่ใดก็ได้ภายในขอบเขตที่กำหนด อย่างเช่น ภายในตึก จุดเด่นของระบบเครือข่ายไร้สายมีดังนี้

  1. การเคลื่อนที่ทำได้สะดวกสามารถใช้ระบบแลนจากที่ใดก็ได้และสามารถเข้าถึงข้อมูลได้แบบ Real Time ได้อีกด้วย

  2. การติดตั้งใช้งานง่ายและรวดเร็วไมต้องเดินสายสัญญาณให้ยุ่งยาก

  3. การติดตั้งและการขยายระบบทำได้อย่างกว้างขวาง เพราะสามารถขยายไปติดตั้งใช้งานในพื้นที่ที่สายสัญญาณเข้าไม่ถึง

  4. เสียค่าใช้จ่ายน้อยลง เพราะในปัจจุบันการส่งสัญญาณของระบบเครือข่ายไร้สายทำได้ไกลมากยิ่งขึ้น และสามารถส่งได้ไกลกว่า ทำให้ลดค่าใช้จ่ายในการเช่าสายสัญญาณลงไปได้เป็นอย่างมาก

  5. มีความยืดหยุ่นในการใช้งานและการติดตั้ง สามารถปรับแต่งให้ใช้ได้กับทุก Topology การปรับแต่งทำได้ง่าย ไม่ว่าจะเป็นการติดตั้งเครือข่าย ต่าง ๆ ทำได้โดยง่าย

เทคนิคในการสื่อสารระบบเครือข่ายไร้สายแบ่งออกตามคุณสมบัติเป็น 5 ชนิด คือ อินฟราเรด แสงเลเซอร์ คลื่นความถี่สั้น คลื่นแบบกระจายไมโครเวฟ ดาวเทียม

 

ระบบกล้องวงจรปิด

แสงอินฟราเรด (Infrared Transmission)

การใช้อินฟราเรด ที่เราคุ้นเคยคือรีโมตโทรทัศน์นั่นเอง ที่สามารถเปลี่ยนช่องด้วยการใช้คลื่นแสงอินฟราเรดเป็นตัวสั่งงาน ซึ่งเทคนิคนี้ก็ถูกนำมาใช้ในระบบเครือข่ายไร้สายด้วยแนวคิดในการทำงานแบบเดียวกันนั่นเอง

วิธีการสื่อสารด้วยอินฟราเรดนั้นจะแบ่งเป็น 4 แบบ ดังนี้

  1. Broadband Optical Telepoint ใช้เทคนิคของบอร์ดแบนด์ อัตราเร็วในการส่งข้อมูลนั้นสามารถเทียบคียงได้กับระบบเครือข่ายแบบมีสาย

  2. Line – of – Sight Infrared การส่งแบบนี้จะต้องทำให้อุปกรณ์รับส่งทั้งสองฝั่งสามารถมองเห็นกันได้ชัดเจน

  3. Reflective Infrared คอมพิวเตอร์ที่จะใช้งานต้องส่งไปยังจุดเดียวกัน และจุดนี้จะรวมสัญญาณเข้าไปยังโหนดที่ต้องการติดต่อด้วย

  4. Scatter Infrared การส่งแบบนี้จะสามารถสะท้อนกำแพง ผนัง พื้น ก่อนจะเดินทางไปถึงอุปกรณ์ปลายทางก็ได้ แต่ก็ต้องยอมรับเช่นกันว่าความเร็วในการส่งนั้นจะค่อนข้างต่ำมาก เพราะว่ามีการกระจายของคลื่นมากกว่าแบบอื่น ๆ

สายใยแก้วนำแสง

แสงเลเซอร์ (Laser Transmission)

แสงเลเซอร์มองเห็นได้ด้วยตาและการส่งสัญญาณก็ต้องอยู่ในระยะสายตาอีกด้วย ทำให้เกิดการลดทอนสัญญาณได้ง่าย ตั้งกล้องวงจรปิด การทำงานของเลเซอร์จะคล้ายกับไมโครเวฟลิงค์แต่ไม่ต้องมีการขออนุญาตเพื่อขอใช้ความถี่ และข้อสำคัญอีกประการ คือ แสงเลเซอร์อาจมีผลเสียต่อสายตาของมนุษย์ได้ การใช้เทคโนโลยีเลเซอร์จะคล้ายกับเทคโนโลยีอินฟราเรดและส่วนมากมักจะใช้กับระบบเครือข่าย WAN

ความถี่คลื่นสั้น (Narrow – Band Radio Transmission)

ความถี่คลื่นสั้นนั้น จะมีการส่งความถี่เดียว การใช้ความถี่คลื่นสั้นจะมีประสิทธิภาพดีกว่าอินฟราเรดทั้งอุปกรณ์ต้นทางและปลายทาง ไม่จำเป็นต้องวางเอาไว้ในแนวที่สายตามองเห็น สัญญาณสามารถทะลุทะลวงผ่านกำแพง ผนังอาคาร หรืออากาศ

ไมโครเวฟ (Microwave)

เทคโนโลยีของไมโครเวฟได้ถูกนำมาใช้กับการสื่อสารระบบกระจายคลื่นทั้งสามรูปแบบ คือ ระบบเครือข่ายไร้สายแบบท้องถิ่น ระบบเครือข่ายไร้สายแบบขยาย ระบบโทรศัพท์เคลื่อนที่

การสื่อสารแบบไมโครเวฟแบ่งรูปแบบการใช้งานเป็น 2 รูปแบบ คือ การเชื่อมต่อภาคพื้นดิน และ การเชื่อมต่อผ่านดาวเทียม  โดยใช้เทคโนโลยีคล้าย ๆ กัน ยกเว้นความถี่ที่ใช้ทำให้ส่งไปได้ไกลไม่เท่ากัน

ระบบไมโครเวฟภาพพื้นดิน เป็นการสื่อสารโดยใช้จานเป็นอุปกรณ์รับส่งของข้อมูล โดยใช้ความถี่ในย่านกิ๊กกะเฮิร์ต และจะต้องอยู่ในระยะที่สามารถมองเห็นจานไมโครเวฟ

ในจุดถัดไปก่อนจึงจะสามารถใช้งานได้ ส่วนมากจะเห็นจานไมโครเวฟที่ติดตั้งอยู่บนเสาสูง เพราะการติดตั้งในเสาสูงจะทำให้ระยะไกลออกไปมากขึ้น วิธีการส่งของไมโครเวฟจะใช้วิธีการบีบลำคลื่นให้แคบ ๆ

เพื่อจะได้เพิ่มแบนด์วิธในการสื่อสารข้อมูลได้มากยิ่งขึ้น ไมโครเวฟมักจะถูกใช้เพื่อแทนที่การส่งของสายเคเบิลในเส้นทางที่ไม่สะดวกในการติดตั้ง หรือติดตั้งก็จะไม่ทันการณ์

ค่าใช้จ่ายในการใช้งานในไมโครเวฟอาจจะดูว่ามีราคาค่อนข้างแพง แต่หากเปรียบกับค่าเช่าวงจรเช่าที่จะต้องจ่ายเดือนละหลาย ๆ หมื่นแล้ว พบว่าไม่แพงเลยและยังสามารถใช้งานในแบนด์วิธที่กว้างกว่าวงจรเช่าด้วย

 

สอบถามข้อมูล  สั่งซื้อ ขอใบเสนอราคา

Line: @cctvbangkok.com
ติดต่อทางเมลส์
ติดต่อเฟสบุค
ติดต่อยูทูป

HOT LINE : 081-700-4715, 089-815-7321, 081-721-5542

 

ดาวเทียม (Satellite) ระบบสื่อสารผ่านดาวเทียม คือ การส่งดาวเทียมขึ้นไปโคจรอยู่ในอวกาศ เพื่อทำหน้าที่เป็นเครื่องทวนสัญญาณ ติดต่อรับส่งสัญญาณกับสถานีภาคพื้นดินซึ่งติดตั้งอยู่ภายใต้พื้นที่ครอบคลุมของดาวเทียม

โดยสถานีภาคพื้นดินจะทำหน้าที่เป็นสถานีต่อผ่านเชื่อมต่อเครือข่ายสื่อสารภาคพื้นดิน ส่วนประกอบหลักของระบบสื่อสารดาวเทียม ได้แก่

  • ดาวเทียม

  • สถานีควบคุมภาคพื้นดิน

  • สถานีเชื่อมต่อเครือข่ายสื่อสารภาคพื้นดิน

ส่วนประกอบพื้นฐานที่จำเป็นของดาวเทียมประกอบด้วย ระบบติดต่อสื่อสารกับสถานีควบคุมภารพื้นดิน   ระบบที่ช่วยรักษาตำแหน่งในวงโคจร ระบบช่วยในการทรงตัว

ระบบรับและเก็บพลังงานแสงอาทิตย์ ระบบเชื้อเพลิงจรวด  ยังมีอุปกรณ์เฉพาะตามลักษณะ หรือระบบเครื่องมือตรวจวัดและเก็บข้อมูลทางวิทยาศาสตร์  

สำหรับดาวเทียมที่ใช้วิจัยทางวิทยาศาสตร์ เป็นต้น สำหรับการแบ่งประเภทของดาวเทียม สามารถแบ่งโดยใช้หลักเกณฑ์ 3 ประการ ได้แก่

  1. แบ่งประเภทตามขนาดของดาวเทียม

  2. แบ่งประเภทตามระดับวงโคจรของดาวเทียม

  3. แบ่งประเภทตามลักษณะของการโคจร

เปรียบเทียบการทำงานของดาวเทียมกับไมโครเวฟ

  1. ไมโครเวฟสามารถใช้ได้กับสถานีที่สามารถมองเห็นกันเท่านั้น แต่ดาวเทียมจะสามารถใช้ได้กับทุกสถานีที่สามารถมองเห็นดาวเทียมได้ ซึ่งจะมีพื้นที่ให้บริการที่มากกว่า

  2. ไมโครเวฟจะทำงานแบบอาศัยสถานีต่าง ๆ เป็นตัวกลางในการส่งผ่านไปยังปลายทาง ดังนั้น หากมีการเสียหายที่สถานีกลางทางก็จะใช้งานต่อไปไม่ได้ แต่ถ้าเป็นดาวเทียมหากมีสถานีใดเสียหายก็จะใช้ไม่ได้เฉพาะสถานีนั้นเท่านั้น

  3. การติดตั้งจานดาวเทียมสามารถทำได้ง่ายและรวดเร็ว เมื่อติดตั้งเสร็จแล้วก็ใช้งานได้เลย ในขณะที่ไมโครเวฟจะต้องติดตั้งสถานีทั้งหมดตลอดเส้นทางก่อนจึงสามารถใช้งานได้

  4. ทั้งสองระบบจะถูกรบกวนจากสภาพอากาศไม่ดี เช่น   ฝนตก   พายุพัดผ่าน  เป็นต้น   ทำให้ไม่สามารถใช้งานได้ตามปกติ

ทั้งหมดนี้หากมีคำถามว่าการติดตั้งกล้องวงจรปิดราคาเท่าไหร่ อ้นนี้ต้องให้ผู้รับเหมาทำการประเมินความต้องการของลูกค้าแล้วสามารถที่จะสรุปราคาได้ ที่สำคัญเราต้องประมาณหน้างาน

ดูความยากง่ายของเนื้องาน มีลูกค้าหายท่านดูเอาไว้ในเว็ปราคาหนึ่ง และพอประเมินออกมาก็เป็นอีกราคา ต้องขอบอกเลยว่าราคาในเว็ปส่วนมากเป็นราคาโดยประมาณการสำหรับบ้านเดียว

บ้านทาวเฮาส์ที่ไม่ใหญ่มาก แต่บางครั้งราคาหน้างานพอไปประเมินแล้วกลายเป็นโรงงาน กลายเป็นบ้านเดียวแต่ใหญ่มาก ดังนั้นติดตั้งกล้องวงจรปิดราคาเท่าไหร แนะนำเรียกช่างไปประเมินหน้างานดีที่สุดครับ

 

 

Related link :  งานติดตั้งรั้วไฟฟ้า NEMTEX    ระบบสัญญาณกันขโมยไร้สาย

สอบถามข้อมูล  สั่งซื้อ ขอใบเสนอราคา

Line: @cctvbangkok.com
ติดต่อทางเมลส์
ติดต่อเฟสบุค
ติดต่อยูทูป

HOT LINE : 081-700-4715, 089-815-7321, 081-721-5542

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *