Hikvision กล้องวงจรปิด เป็นบริษัทผู้ผลิตและจำหน่ายอุปกรณ์กล้องวงจรปิด (CCTV) และระบบความปลอดภัยอื่นๆ ที่มีชื่อเสียงระดับโลก ซึ่งมีผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายรูปแบบ เช่น กล้องวงจรปิดแบบอนาล็อก (Analog),
กล้องวงจรปิดแบบดิจิตอล (IP Camera), ระบบบันทึกภาพ (NVR), ระบบควบคุมการเข้าถึง (Access Control), ระบบตรวจจับความร้อน (Thermal Camera), และอุปกรณ์ควบคุมการทำงานแบบอัตโนมัติ (AI-powered devices) เพื่อรองรับความต้องการในด้านความปลอดภัยของลูกค้าทั่วโลก
ความสำเร็จของ Hikvision มาจากการให้ความสำคัญกับคุณภาพสินค้า, นวัตกรรมทางเทคโนโลยีที่ล้ำหน้า, และบริการลูกค้าที่ดี เช่นกัน เป็นที่ยอมรับในวงกว้างในวงการความปลอดภัยและกล้องวงจรปิด
นอกจากนี้ Hikvision เป็นผู้นำในการใช้เทคโนโลยีการระบุใบหน้า (Facial Recognition), ระบบตรวจจับความเคลื่อนไหว (Motion Detection), และการระบุอ็อบเจกต์ (Object Detection) ในการพัฒนาระบบความปลอดภัยที่ทันสมัยและมีประสิทธิภาพอย่างมาก
สอบถามข้อมูล สั่งซื้อ ขอใบเสนอราคา
HOT LINE : 081-700-4715, 089-815-7321, 081-721-5542
แนะนำการเชื่อมต่อแบบ FTTx
บริการอินเทอร์เน็ตอีกรูปแบบหนึ่ง ซี่งตัว x หมายถึงสถานที่เชื่อมต่อ จุดเด่นของ FTTx คือการใช้สายไฟเบอร์ออปติกหรือใยแก้วนำแสง มีความทนทานและแม่นยำมากกว่าสายโทรศัพท์หรือสายโคแอ็กเชียล
โมเด็ม / เราท์เตอร์ที่ใช้งานกับ FFTx จะมีช่องติดตั้งสายไฟเบอร์ออปติกเข้าไปโดยตรง บางครั้งผู้ให้บริการก็เลือกใช้เราท์เตอร์ธรรมดา แต่ต่อสายไฟเบอร์ออปติกเข้าไปที่อุปกรณ์ Modem Converter เพื่อแปลงเป็นสายแลนปกติ
Hikvision กล้องวงจรปิด
การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตของคอมพิวเตอร์จะเชื่อมต่อผ่านสายแลนเข้ากับเราท์เตอร์ด้วยการ์ดแลนในเครื่อง และการตั้งค่าเราท์เตอร์ทั้งหมดผู้ใช้จะควบคุมด้วยซอฟต์แวร์ตั้งค่าโดยผ่านบราวเซอร์
ทั้งนี้ภายในตัวเราท์เตอร์เองจะมีโปรแกรมควบคุมที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถควบคุมและสั่งการผ่านบราวเซอร์ได้เอง
สอบถามข้อมูล สั่งซื้อ ขอใบเสนอราคา
HOT LINE : 081-700-4715, 089-815-7321, 081-721-5542
เตรียมตัวก่อนใช้ไฮสปีด
การเชื่อมต่อที่ชุมสายโทรศัพท์ทางผู้ให้บริการแจ้งให้ผู้ใช้ทราบและแจ้ง Username และรหัสผ่านสำหรับเชื่อมต่อเพื่อใช้งานถึงจุดนี้แสดงว่าผู้ให้บริการพร้อมที่จะให้ผู้ใช้สามารถตั้งค่าการรเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้แล้ว ผู้ใช้ต้องทราบเพื่อตั้งค่าการเชื่อมต่อ ADSL
สำหรับผู้ใช้โมเด็มที่ได้รับจากผู้ให้บริการสามารถไปดาวน์โหลดไดรเวอร์จากเว็บไซต์ของผู้ให้บริการ กรณีที่เป็นโมเด็มที่ซื้อมาเองก็สามารถดาวน์โหลดไดร์เวอร์จากเว็บไซต์ของตัวแทนจำหน่ายในประเทศไทยหรือเว็บไซต์ของผู้ผลิตยี่ห้อนั้นในต่างประเทศ
การรู้จักสัญลักษณ์ไฟที่ตัวโมเด็มและเราท์เตอร์ก็เป็นสิ่งสำคัญ ผู้ใช้สามารถศึกษาได้จากคู่มือของโมเด็มและเราท์เตอร์ ไฟจะติดค้างเมื่อเชื่อมต่อสมบูรณ์และกระพริบเมื่อมีการรับ / ส่งข้อมูล
หรือบางยี่ห้อจะมีไฟ PPP อีกดวงเพื่อแจ้งว่าตรวจสอบ Username และรหัสผ่านพร้อมใช้งานแล้ว
เชื่อมต่อโมเด็ม ADSL กับเราท์เตอร์
เราท์เตอร์อุปกรณ์ประเภทที่ใช้งานกับเน็ต Hi-Speed มี 2 ประเภทคือ เราท์เตอร์ทั่วไปซึ่งต้องใช้ร่วมกับโมเด็ม ADSL และอีกแบบคือเราท์เตอร์ All-in-One ซึ่งมีโมเด็ม ADSL ในตัวเองสามารถเสียบสายโทรศัพท์เพื่อใช้งานได้ทันที
ปกติเราท์เตอร์ที่ได้รับจากผู้ให้บริการเป็นแบบ All-in-One ในขณะที่เราท์เตอร์ซึ่งขายกันโดยทั่วไปนิยมเป็นแบบธรรมดา ผู้ใช้ต้องเตรียมโมเด็ม ADSL เอาไว้ด้วย
เน็ตบ้าน 100 Mbps ใช้ได้แต่ 50Mbps !!!
อินเทอร์เน็ตที่ใช้ตามบ้านทำความเร็วได้ถึง 100 Mbps แต่หลายคนพบปัญหาความเร็วทำได้ไม่ตรงกับที่ผู้ให้โฆษณา ซึ่งตอนที่ติดตั้งก็ทดสอบกับคอมพิวเตอร์ความเร็วสูง 100 Mbps แต่พอใช้งานจริงแล้วความเร็วกับไม่ถึง 50 Mbps
ความเร็วที่ยังไม่ลดทอนจากการเข้ารหัสการเชื่อมต่อ ซึ่งความเร็วจริงทำได้ต่ำกว่านั้น หากต้องการเปลี่ยนแพ็คเก็จอินเทอร์เน็ต 100 Mbps ผู้ใช้ต้องเตรียมอุปกรณ์อย่างน้อยต้องรองรับ Wireless N แบบ 2 เสา 300 Mbps
ถ้าสามารถเลือกรุ่นระดับกลางรองรับ Wireless AC 2-3 เสาขึ้นไปได้ยิ่งดี และอย่าไปคาดหวังกับเราท์เตอร์ที่ผู้ให้บริการแจกให้ฟรี
การเชื่อมต่อสายแลนก็ต้องรองรับ Gigabit LAN ด้วย การเลือกสายแลนหากเพียงใช้งานในบ้านกับคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะหรือโน้ตบุ๊ค เลือกสายแลนCAT5e ธรรมดาก็เพียงพอ ไม่จำเป็นที่จะต้องใช้ CAT6 ซึ่งราคาแพง เน้นที่หัวต่อเป็นสำคัญควรเลือกที่มีคุณภาพดี ๆ
เริ่มต้นใช้งาน Cable Modem
ผู้ใช้ต้องให้ผู้บริการตรวจสอบและติดตั้ง Cable Modem เพื่อลงทะเบียนโมเด็มกับระบบของผู้ให้บริการ การเชื่อมต่อแบบ Cable Modem เป็นการเชื่อมต่อโดยตรงกับระบบเครือข่าย ผู้ใช้ไม่ต้องมี User Name และรหัสผ่าน
เมื่อผู้ให้บริการติดตั้งและลงทะเบียนผู้ใช้ก็สามารถใช้งานอินเทอร์เน็ตผ่านระบบของผู้ให้บริการได้ทันที หากไม่ต้องใช้งานก็ปิดโมเด็มได้ทันที เพราะการเปิดใช้งานก็เพียงเปิดโมเด็มเท่านั้น ตัวโมเด็มจะเชื่อมต่อกับระบบให้อัตโนมัติโดยที่ผู้ใช้ไม่ต้องตั้งค่าใด ๆ
ติดตั้งเพื่อใช้งาน Cable Modem
เมื่อเปิดใช้อินเทอร์เน็ตอุปกรณ์ที่ผู้ใช้จะได้รับมีที่เป็นแบบโมเด็ม Cable Modem ปกติ และแบบเราท์เตอร์ที่มีหัวต่อสายโคแอ็กเชียลทางด้านหลัง ที่ผู้ใช้สามารถเลือกติดตั้งเพื่อใช้งานร่วมกับเราท์เตอร์ที่มีอยู่แล้ว
การตั้งค่าเราท์เตอร์ของผู้ใช้ต้องตั้งค่าให้เราท์เตอร์อยู่ในรูปแบบการเชื่อมต่อ โดยเราท์เตอร์จะสื่อสารกับ Cable Modem และกำหนดหมายเลข IP Address สำหรับใช้งานอินเทอร์เน็ตโดยอัตโนมัติ ต่างจากบริการ ADSL ปกติที่นิยมตั้งค่าเป็นPPPoE
ตรวจสอบโมเด็ม Cable Modem
การเชื่อมต่อเป็นการเชื่อมต่อตรงจากผู้ให้บริการ การตรวจสอบส่วนใหญ่ต้องติดต่อผู้ให้บริการเท่านั้น ผู้ใช้ไม่สามารถเข้าถึงระบบการตั้งค่าได้โดยตรง สิ่งหนึ่งที่ผู้ใช้บริการทำได้คือการตรวจสอบคุณภาพสัญญาณและสถานะ
เพื่อการเชื่อมต่อปัจจุบัน ผู้ใช้ต้องรู้หมายเลข IP Address ของโมเด็มหรือเราท์เตอร์
ติดตั้งแลนและไวร์เลสในบ้าน
ในปัจจุบันเมนบอร์ดที่วางจำหน่ายได้รับการติดตั้งไวร์เลสมาให้เรียบร้อย และเป็นเมนบอร์ดรุ่นใหม่ที่ติดตั้งชิปกิกะบิตแลนที่มีความเร็วสูงอีกทั้งอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงช่วยให้ผู้ใช้นิยมสร้างเครือข่ายภายในบ้านเพื่อแชร์ไฟล์ในไดรว์หรือเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตร่วมกันของคอมพิวเตอร์ภายในบ้าน
เชื่อมต่อคอมพิวเตอร์ด้วยแลน
ในปัจจุบันการ์ดแลนสามารถรองรับความเร็วถึง 1,000 Mbps หรือ 1 Gbps เพื่อรองรับระบบเครือข่ายที่ต้องการประสิทธิภาพในการรับ / ส่งข้อมูลโดยเฉพาะ และเมนบอร์ดรุ่นใหม่นิยมติดตั้งชิปแลน 1 Gbps
มาพร้อมกับแมนบอร์ดด้วย เป็นการดีที่ผู้ใช้จะได้มีโอกาสได้ใช้ระบบเครือข่ายที่มีความเร็วสูง
Related link : สัญญาณกันขโมยไร้สาย รั้วไฟฟ้า
คำถามที่พบบ่อย FAQ. FTTX
1. ความเร็วของอินเทอร์เน็ตคือเท่าใด?
- คำตอบ ระบบ FTTH มักมีความเร็วอินเทอร์เน็ตที่สูงกว่า โดยมากจะมีเร็วกว่า 100 Mbps และบางครั้งอาจมีความเร็วไปถึง 1 Gbps หรือมากกว่านั้น
2. มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมหรือค่าบริการอื่นๆ ที่ต้องจ่ายเพิ่มเติมหรือไม่?
- คำตอบ ควรถามเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้อง เช่น ค่าติดตั้ง, ค่าบริการรายเดือน, และค่าบริการอื่นๆ ที่อาจเกิดขึ้นในระบบ FTTH
3. มีบริการความเร็วเคลื่อนที่ (Mobility) ร่วมด้วยหรือไม่?
- คำตอบ ระบบ FTTH มักจะไม่มีบริการความเร็วเคลื่อนที่ ดังนั้นควรตรวจสอบว่าผู้ให้บริการมีบริการเสริมใดๆ ที่สามารถให้ความรับผิดชอบ
4. มีการรับประกันความเร็วของเครือข่ายไหม?
- คำตอบ ควรสอบถามเกี่ยวกับการรับประกันความเร็วของเครือข่าย และว่าจะมีการเสียความเร็วในสถานการณ์ใดๆ หรือไม่
5. มีบริการสนับสนุนลูกค้า (Customer Support) อย่างไรบ้าง?
- คำตอบ สอบถามเกี่ยวกับบริการสนับสนุนลูกค้า ทั้งในระหว่างเวลาทำการและนอกเวลาทำการ เช่น บริการแจ้งเตือนฉุกเฉินและการซ่อมบำรุงรักษา
6. ค่าใช้จ่ายต่างๆ เหมาะสมกับงบประมาณของฉันหรือไม่?
- คำตอบ ควรเปรียบเทียบค่าใช้จ่ายระหว่างผู้ให้บริการต่างๆ เพื่อให้แน่ใจว่ามันเหมาะสมกับงบประมาณของคุณ
7. มีบริการเสริมอื่นๆ ที่มีให้เลือกหรือไม่?
- คำตอบ ควรสอบถามเกี่ยวกับบริการเสริมอื่นๆ ที่ผู้ให้บริการอาจมีเสนอ เช่น บริการโทรศัพท์ VoIP, บริการทีวีแบบอินเตอร์เน็ต (IPTV) หรือบริการอื่นๆ
8. ค่าใช้จ่ายในการยกเลิกบริการหรือการเปลี่ยนแปลงบริการคือเท่าใด?
- คำตอบ สอบถามเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายในการยกเลิกบริการหรือการเปลี่ยนแปลงบริการ เพื่อป้องกันการเจอกับค่าใช้จ่ายที่ไม่คาดคิด
9. การสร้างความน่าเชื่อถือและรีวิวจากผู้ใช้
- คำตอบ ควรสอบถามเกี่ยวกับการสร้างความน่าเชื่อถือและรีวิวจากผู้ใช้ ซึ่งอาจเป็นแหล่งข้อมูลที่มีประโยชน์ในการตัดสินใจ
10. ความปลอดภัยของเครือข่าย
- คำตอบ สอบถามเกี่ยวกับมาตรการความปลอดภัยที่มีในเครือข่าย และว่ามีการป้องกันข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าอย่างไรบ้าง
การตอบคำถามเหล่านี้จะช่วยให้คุณได้ข้อมูลที่จำเป็นและชัดเจนเพื่อช่วยในการตัดสินใจเลือกใช้บริการ FTTH อย่างเหมาะสมกับความต้องการของคุณ
สอบถามข้อมูล สั่งซื้อ ขอใบเสนอราคา