Hikvision กล้องวงจรปิด

Hikvision กล้องวงจรปิด และแนะนำการติดตั้ง การเชื่อมต่อ

Hikvision กล้องวงจรปิด เป็นบริษัทผู้ผลิตและจำหน่ายอุปกรณ์กล้องวงจรปิด (CCTV) และระบบความปลอดภัยอื่นๆ ที่มีชื่อเสียงระดับโลก ซึ่งมีผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายรูปแบบ เช่น กล้องวงจรปิดแบบอนาล็อก (Analog),

กล้องวงจรปิดแบบดิจิตอล (IP Camera), ระบบบันทึกภาพ (NVR), ระบบควบคุมการเข้าถึง (Access Control), ระบบตรวจจับความร้อน (Thermal Camera), และอุปกรณ์ควบคุมการทำงานแบบอัตโนมัติ (AI-powered devices) เพื่อรองรับความต้องการในด้านความปลอดภัยของลูกค้าทั่วโลก

ความสำเร็จของ Hikvision มาจากการให้ความสำคัญกับคุณภาพสินค้า, นวัตกรรมทางเทคโนโลยีที่ล้ำหน้า, และบริการลูกค้าที่ดี เช่นกัน เป็นที่ยอมรับในวงกว้างในวงการความปลอดภัยและกล้องวงจรปิด

นอกจากนี้ Hikvision เป็นผู้นำในการใช้เทคโนโลยีการระบุใบหน้า (Facial Recognition), ระบบตรวจจับความเคลื่อนไหว (Motion Detection), และการระบุอ็อบเจกต์ (Object Detection) ในการพัฒนาระบบความปลอดภัยที่ทันสมัยและมีประสิทธิภาพอย่างมาก

 

สอบถามข้อมูล  สั่งซื้อ ขอใบเสนอราคา

Line: @cctvbangkok.com
ติดต่อทางเมลส์
ติดต่อเฟสบุค
ติดต่อยูทูป

HOT LINE : 081-700-4715, 089-815-7321, 081-721-5542

 

แนะนำการเชื่อมต่อแบบ FTTx

บริการอินเทอร์เน็ตอีกรูปแบบหนึ่ง ซี่งตัว x หมายถึงสถานที่เชื่อมต่อ  จุดเด่นของ FTTx  คือการใช้สายไฟเบอร์ออปติกหรือใยแก้วนำแสง  มีความทนทานและแม่นยำมากกว่าสายโทรศัพท์หรือสายโคแอ็กเชียล

โมเด็ม / เราท์เตอร์ที่ใช้งานกับ FFTx  จะมีช่องติดตั้งสายไฟเบอร์ออปติกเข้าไปโดยตรง  บางครั้งผู้ให้บริการก็เลือกใช้เราท์เตอร์ธรรมดา  แต่ต่อสายไฟเบอร์ออปติกเข้าไปที่อุปกรณ์ Modem Converter เพื่อแปลงเป็นสายแลนปกติ

 

เร้าเตอร์กล้องวงจรปิด

Hikvision กล้องวงจรปิด

                การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตของคอมพิวเตอร์จะเชื่อมต่อผ่านสายแลนเข้ากับเราท์เตอร์ด้วยการ์ดแลนในเครื่อง  และการตั้งค่าเราท์เตอร์ทั้งหมดผู้ใช้จะควบคุมด้วยซอฟต์แวร์ตั้งค่าโดยผ่านบราวเซอร์ 

ทั้งนี้ภายในตัวเราท์เตอร์เองจะมีโปรแกรมควบคุมที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถควบคุมและสั่งการผ่านบราวเซอร์ได้เอง

 

สอบถามข้อมูล  สั่งซื้อ ขอใบเสนอราคา

Line: @cctvbangkok.com
ติดต่อทางเมลส์
ติดต่อเฟสบุค
ติดต่อยูทูป

HOT LINE : 081-700-4715, 089-815-7321, 081-721-5542

 

เตรียมตัวก่อนใช้ไฮสปีด

การเชื่อมต่อที่ชุมสายโทรศัพท์ทางผู้ให้บริการแจ้งให้ผู้ใช้ทราบและแจ้ง Username และรหัสผ่านสำหรับเชื่อมต่อเพื่อใช้งานถึงจุดนี้แสดงว่าผู้ให้บริการพร้อมที่จะให้ผู้ใช้สามารถตั้งค่าการรเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้แล้ว  ผู้ใช้ต้องทราบเพื่อตั้งค่าการเชื่อมต่อ  ADSL 

สำหรับผู้ใช้โมเด็มที่ได้รับจากผู้ให้บริการสามารถไปดาวน์โหลดไดรเวอร์จากเว็บไซต์ของผู้ให้บริการ  กรณีที่เป็นโมเด็มที่ซื้อมาเองก็สามารถดาวน์โหลดไดร์เวอร์จากเว็บไซต์ของตัวแทนจำหน่ายในประเทศไทยหรือเว็บไซต์ของผู้ผลิตยี่ห้อนั้นในต่างประเทศ 

การรู้จักสัญลักษณ์ไฟที่ตัวโมเด็มและเราท์เตอร์ก็เป็นสิ่งสำคัญ  ผู้ใช้สามารถศึกษาได้จากคู่มือของโมเด็มและเราท์เตอร์  ไฟจะติดค้างเมื่อเชื่อมต่อสมบูรณ์และกระพริบเมื่อมีการรับ / ส่งข้อมูล 

หรือบางยี่ห้อจะมีไฟ PPP อีกดวงเพื่อแจ้งว่าตรวจสอบ Username และรหัสผ่านพร้อมใช้งานแล้ว

 

กล้องวงจรปิดไร้สาย

 

เชื่อมต่อโมเด็ม ADSL กับเราท์เตอร์

เราท์เตอร์อุปกรณ์ประเภทที่ใช้งานกับเน็ต Hi-Speed มี 2 ประเภทคือ เราท์เตอร์ทั่วไปซึ่งต้องใช้ร่วมกับโมเด็ม ADSL และอีกแบบคือเราท์เตอร์ All-in-One  ซึ่งมีโมเด็ม ADSL ในตัวเองสามารถเสียบสายโทรศัพท์เพื่อใช้งานได้ทันที 

ปกติเราท์เตอร์ที่ได้รับจากผู้ให้บริการเป็นแบบ All-in-One  ในขณะที่เราท์เตอร์ซึ่งขายกันโดยทั่วไปนิยมเป็นแบบธรรมดา  ผู้ใช้ต้องเตรียมโมเด็ม ADSL เอาไว้ด้วย

เน็ตบ้าน 100 Mbps ใช้ได้แต่ 50Mbps !!!

อินเทอร์เน็ตที่ใช้ตามบ้านทำความเร็วได้ถึง 100 Mbps  แต่หลายคนพบปัญหาความเร็วทำได้ไม่ตรงกับที่ผู้ให้โฆษณา   ซึ่งตอนที่ติดตั้งก็ทดสอบกับคอมพิวเตอร์ความเร็วสูง 100 Mbps   แต่พอใช้งานจริงแล้วความเร็วกับไม่ถึง 50 Mbps

                ความเร็วที่ยังไม่ลดทอนจากการเข้ารหัสการเชื่อมต่อ  ซึ่งความเร็วจริงทำได้ต่ำกว่านั้น  หากต้องการเปลี่ยนแพ็คเก็จอินเทอร์เน็ต 100 Mbps ผู้ใช้ต้องเตรียมอุปกรณ์อย่างน้อยต้องรองรับ Wireless N แบบ 2 เสา 300 Mbps

ถ้าสามารถเลือกรุ่นระดับกลางรองรับ Wireless AC 2-3 เสาขึ้นไปได้ยิ่งดี  และอย่าไปคาดหวังกับเราท์เตอร์ที่ผู้ให้บริการแจกให้ฟรี  

การเชื่อมต่อสายแลนก็ต้องรองรับ Gigabit LAN ด้วย  การเลือกสายแลนหากเพียงใช้งานในบ้านกับคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะหรือโน้ตบุ๊ค  เลือกสายแลนCAT5e ธรรมดาก็เพียงพอ  ไม่จำเป็นที่จะต้องใช้ CAT6 ซึ่งราคาแพง  เน้นที่หัวต่อเป็นสำคัญควรเลือกที่มีคุณภาพดี ๆ

 

 

เริ่มต้นใช้งาน  Cable Modem

ผู้ใช้ต้องให้ผู้บริการตรวจสอบและติดตั้ง  Cable Modem  เพื่อลงทะเบียนโมเด็มกับระบบของผู้ให้บริการ  การเชื่อมต่อแบบ Cable Modem เป็นการเชื่อมต่อโดยตรงกับระบบเครือข่าย  ผู้ใช้ไม่ต้องมี User Name และรหัสผ่าน   

เมื่อผู้ให้บริการติดตั้งและลงทะเบียนผู้ใช้ก็สามารถใช้งานอินเทอร์เน็ตผ่านระบบของผู้ให้บริการได้ทันที  หากไม่ต้องใช้งานก็ปิดโมเด็มได้ทันที  เพราะการเปิดใช้งานก็เพียงเปิดโมเด็มเท่านั้น  ตัวโมเด็มจะเชื่อมต่อกับระบบให้อัตโนมัติโดยที่ผู้ใช้ไม่ต้องตั้งค่าใด ๆ

ติดตั้งเพื่อใช้งาน  Cable Modem

เมื่อเปิดใช้อินเทอร์เน็ตอุปกรณ์ที่ผู้ใช้จะได้รับมีที่เป็นแบบโมเด็ม Cable Modem ปกติ และแบบเราท์เตอร์ที่มีหัวต่อสายโคแอ็กเชียลทางด้านหลัง ที่ผู้ใช้สามารถเลือกติดตั้งเพื่อใช้งานร่วมกับเราท์เตอร์ที่มีอยู่แล้ว  

การตั้งค่าเราท์เตอร์ของผู้ใช้ต้องตั้งค่าให้เราท์เตอร์อยู่ในรูปแบบการเชื่อมต่อ  โดยเราท์เตอร์จะสื่อสารกับ Cable Modem และกำหนดหมายเลข IP Address สำหรับใช้งานอินเทอร์เน็ตโดยอัตโนมัติ ต่างจากบริการ ADSL ปกติที่นิยมตั้งค่าเป็นPPPoE

ตรวจสอบโมเด็ม Cable Modem

การเชื่อมต่อเป็นการเชื่อมต่อตรงจากผู้ให้บริการ  การตรวจสอบส่วนใหญ่ต้องติดต่อผู้ให้บริการเท่านั้น  ผู้ใช้ไม่สามารถเข้าถึงระบบการตั้งค่าได้โดยตรง   สิ่งหนึ่งที่ผู้ใช้บริการทำได้คือการตรวจสอบคุณภาพสัญญาณและสถานะ

เพื่อการเชื่อมต่อปัจจุบัน  ผู้ใช้ต้องรู้หมายเลข  IP Address  ของโมเด็มหรือเราท์เตอร์

 

สายใยแก้วนำแสง

 

ติดตั้งแลนและไวร์เลสในบ้าน

ในปัจจุบันเมนบอร์ดที่วางจำหน่ายได้รับการติดตั้งไวร์เลสมาให้เรียบร้อย  และเป็นเมนบอร์ดรุ่นใหม่ที่ติดตั้งชิปกิกะบิตแลนที่มีความเร็วสูงอีกทั้งอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงช่วยให้ผู้ใช้นิยมสร้างเครือข่ายภายในบ้านเพื่อแชร์ไฟล์ในไดรว์หรือเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตร่วมกันของคอมพิวเตอร์ภายในบ้าน

เชื่อมต่อคอมพิวเตอร์ด้วยแลน

ในปัจจุบันการ์ดแลนสามารถรองรับความเร็วถึง 1,000 Mbps หรือ 1 Gbps  เพื่อรองรับระบบเครือข่ายที่ต้องการประสิทธิภาพในการรับ / ส่งข้อมูลโดยเฉพาะ และเมนบอร์ดรุ่นใหม่นิยมติดตั้งชิปแลน 1 Gbps 

มาพร้อมกับแมนบอร์ดด้วย  เป็นการดีที่ผู้ใช้จะได้มีโอกาสได้ใช้ระบบเครือข่ายที่มีความเร็วสูง

 

 

Related link : สัญญาณกันขโมยไร้สาย    รั้วไฟฟ้า

 

คำถามที่พบบ่อย FAQ. FTTX

1. ความเร็วของอินเทอร์เน็ตคือเท่าใด?

  • คำตอบ  ระบบ FTTH มักมีความเร็วอินเทอร์เน็ตที่สูงกว่า โดยมากจะมีเร็วกว่า 100 Mbps และบางครั้งอาจมีความเร็วไปถึง 1 Gbps หรือมากกว่านั้น

2. มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมหรือค่าบริการอื่นๆ ที่ต้องจ่ายเพิ่มเติมหรือไม่?

  • คำตอบ  ควรถามเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้อง เช่น ค่าติดตั้ง, ค่าบริการรายเดือน, และค่าบริการอื่นๆ ที่อาจเกิดขึ้นในระบบ FTTH

3. มีบริการความเร็วเคลื่อนที่ (Mobility) ร่วมด้วยหรือไม่?

  • คำตอบ  ระบบ FTTH มักจะไม่มีบริการความเร็วเคลื่อนที่ ดังนั้นควรตรวจสอบว่าผู้ให้บริการมีบริการเสริมใดๆ ที่สามารถให้ความรับผิดชอบ

4. มีการรับประกันความเร็วของเครือข่ายไหม?

  • คำตอบ  ควรสอบถามเกี่ยวกับการรับประกันความเร็วของเครือข่าย และว่าจะมีการเสียความเร็วในสถานการณ์ใดๆ หรือไม่

5. มีบริการสนับสนุนลูกค้า (Customer Support) อย่างไรบ้าง?

  • คำตอบ  สอบถามเกี่ยวกับบริการสนับสนุนลูกค้า ทั้งในระหว่างเวลาทำการและนอกเวลาทำการ เช่น บริการแจ้งเตือนฉุกเฉินและการซ่อมบำรุงรักษา

6. ค่าใช้จ่ายต่างๆ เหมาะสมกับงบประมาณของฉันหรือไม่?

  • คำตอบ  ควรเปรียบเทียบค่าใช้จ่ายระหว่างผู้ให้บริการต่างๆ เพื่อให้แน่ใจว่ามันเหมาะสมกับงบประมาณของคุณ

7. มีบริการเสริมอื่นๆ ที่มีให้เลือกหรือไม่?

  • คำตอบ  ควรสอบถามเกี่ยวกับบริการเสริมอื่นๆ ที่ผู้ให้บริการอาจมีเสนอ เช่น บริการโทรศัพท์ VoIP, บริการทีวีแบบอินเตอร์เน็ต (IPTV) หรือบริการอื่นๆ

8. ค่าใช้จ่ายในการยกเลิกบริการหรือการเปลี่ยนแปลงบริการคือเท่าใด?

  • คำตอบ  สอบถามเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายในการยกเลิกบริการหรือการเปลี่ยนแปลงบริการ เพื่อป้องกันการเจอกับค่าใช้จ่ายที่ไม่คาดคิด

9. การสร้างความน่าเชื่อถือและรีวิวจากผู้ใช้

  • คำตอบ  ควรสอบถามเกี่ยวกับการสร้างความน่าเชื่อถือและรีวิวจากผู้ใช้ ซึ่งอาจเป็นแหล่งข้อมูลที่มีประโยชน์ในการตัดสินใจ

10. ความปลอดภัยของเครือข่าย

  • คำตอบ  สอบถามเกี่ยวกับมาตรการความปลอดภัยที่มีในเครือข่าย และว่ามีการป้องกันข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าอย่างไรบ้าง

การตอบคำถามเหล่านี้จะช่วยให้คุณได้ข้อมูลที่จำเป็นและชัดเจนเพื่อช่วยในการตัดสินใจเลือกใช้บริการ FTTH อย่างเหมาะสมกับความต้องการของคุณ

สอบถามข้อมูล  สั่งซื้อ ขอใบเสนอราคา

Line: @cctvbangkok.com
ติดต่อทางเมลส์
ติดต่อเฟสบุค
ติดต่อยูทูป

HOT LINE : 081-700-4715, 089-815-7321, 081-721-5542

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *