ราคากล้องวงจรปิด

ชุดกล้องวงจรปิด ราคาพร้อมติดตั้ง

28,900฿ ราคายังไม่รวม VAT
23,900฿ ราคายังไม่รวม VAT
21,900฿ ราคายังไม่รวม VAT
43,900฿ ราคายังไม่รวม VAT
23,900฿ ราคายังไม่รวม VAT
37,900฿ ราคายังไม่รวม VAT
20,900฿ ราคายังไม่รวม VAT
41,900฿ ราคายังไม่รวม VAT
กล้องวงจรปิดทรงกระบอก

CCTV ย่อมาจาก Closed Circuit Television หมายถึง 

ระบบกล้องและจอภาพที่ใช้เพื่อการเฝ้าระวังและรักษาความปลอดภัย วัตถุประสงค์ของกล้องวงจรปิดคือการตรวจสอบและบันทึกกิจกรรมในพื้นที่ที่กำหนด
โดยมีเป้าหมายในการป้องกันและตรวจจับกิจกรรมทางอาญา เพิ่มความปลอดภัยสาธารณะ และให้หลักฐานในกรณีที่เกิดเหตุการณ์ 

คำถาม 10 ข้อที่อาจช่วยให้เข้าใจความหมายและวัตถุประสงค์ของกล้องวงจรปิดมากขึ้น

1. วัตถุประสงค์หลักของระบบกล้องวงจรปิดคืออะไร

วัตถุประสงค์หลักของระบบกล้องวงจรปิดคือการตรวจสอบและบันทึกกิจกรรมในพื้นที่ที่กำหนดเพื่อความปลอดภัยและการเฝ้าระวัง ระบบกล้องวงจรปิดโดยทั่วไปประกอบด้วยกล้อง เครื่องบันทึกวิดีโอ และจอมอนิเตอร์ ซึ่งทำงานร่วมกันเพื่อจับภาพและแสดงภาพหรือฟุตเทจวิดีโอของพื้นที่ที่ถูกตรวจสอบ

ระบบกล้องวงจรปิดมีการใช้งานทั่วไปในอุตสาหกรรมและการตั้งค่าต่าง ๆ รวมทั้งการค้าปลีก การต้อนรับ การขนส่ง พื้นที่สาธารณะ และพื้นที่อยู่อาศัย วัตถุประสงค์ของระบบกล้องวงจรปิดคือเพื่อป้องกันและตรวจจับกิจกรรมทางอาญา เพิ่มความปลอดภัยสาธารณะ และแสดงหลักฐานในกรณีที่เกิดเหตุการณ์

ด้วยการติดตามและบันทึกกิจกรรม ระบบกล้องวงจรปิดสามารถช่วยยับยั้งอาชญากรรมและการก่อกวน ระบุพฤติกรรมหรือบุคคลที่น่าสงสัย และช่วยเหลือการบังคับใช้กฎหมายในการสืบสวน ระบบกล้องวงจรปิดยังสามารถใช้เพื่อตรวจสอบการปฏิบัติงานของพนักงานและปฏิบัติตามนโยบายความปลอดภัยและความมั่นคง

โดยรวมแล้ว วัตถุประสงค์หลักของระบบกล้องวงจรปิดคือการจัดหาวิธีการตรวจสอบและบันทึกกิจกรรมในพื้นที่ที่กำหนดเพื่อความปลอดภัยและการเฝ้าระวัง

2. ระบบกล้องวงจรปิดทำงานโดยใช้กล้องเพื่อจับภาพวิดีโอของพื้นที่ที่ได้รับการตรวจสอบ จากนั้นจึงบันทึกและจัดเก็บไว้ในเครื่องบันทึกวิดีโอหรืออุปกรณ์เก็บข้อมูลดิจิทัล นี่คือคำอธิบายทีละขั้นตอนเกี่ยวกับวิธีการทำงานของระบบกล้องวงจรปิด

กล้อง: ระบบกล้องวงจรปิดประกอบด้วยกล้องตั้งแต่หนึ่งตัวขึ้นไป ซึ่งจะจับภาพวิดีโอของพื้นที่ที่ได้รับการตรวจสอบ กล้องอาจติดอยู่กับที่หรือเคลื่อนย้ายได้ และอาจวางในที่ร่มหรือกลางแจ้งก็ได้ ขึ้นอยู่กับการใช้งาน

เครื่องบันทึกวิดีโอ: ภาพวิดีโอที่บันทึกโดยกล้องจะถูกส่งไปยังเครื่องบันทึกวิดีโอ ซึ่งอาจเป็นอุปกรณ์อนาล็อกหรือดิจิตอลก็ได้ เครื่องบันทึกวิดีโอแบบอะนาล็อกใช้เทปแม่เหล็กเพื่อจัดเก็บฟุตเทจ ในขณะที่เครื่องบันทึกแบบดิจิทัลใช้ฮาร์ดไดรฟ์หรืออุปกรณ์เก็บข้อมูลดิจิทัลอื่นๆ

การส่งสัญญาณ: ภาพวิดีโออาจถูกส่งไปยังเครื่องบันทึกวิดีโอผ่านสายเคเบิลหรือแบบไร้สาย ขึ้นอยู่กับการตั้งค่าระบบ ในบางกรณี ภาพวิดีโออาจถูกส่งไปยังสถานีตรวจสอบระยะไกล ซึ่งเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยสามารถดูได้แบบเรียลไทม์

ที่เก็บข้อมูล: วิดีโอที่ถ่ายโดยกล้องจะถูกจัดเก็บไว้ในเครื่องบันทึกวิดีโอหรืออุปกรณ์เก็บข้อมูลดิจิทัล ซึ่งสามารถเข้าถึงและตรวจสอบในภายหลังได้หากจำเป็น ระยะเวลาที่เก็บฟุตเทจขึ้นอยู่กับความจุของเครื่องบันทึกและการตั้งค่าที่ผู้ใช้กำหนด

จอแสดงผล: วิดีโอที่บันทึกโดยกล้องสามารถดูได้บนจอภาพหรืออุปกรณ์แสดงผลอื่นๆ ซึ่งช่วยให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยหรือบุคคลที่ได้รับอนุญาตอื่นๆ สามารถตรวจสอบพื้นที่ได้แบบเรียลไทม์

สรุป  ระบบกล้องวงจรปิดทำงานโดยใช้กล้องเพื่อจับภาพวิดีโอของพื้นที่ที่ได้รับการตรวจสอบ จากนั้นจึงบันทึกและจัดเก็บไว้ในเครื่องบันทึกวิดีโอหรืออุปกรณ์เก็บข้อมูลดิจิทัล สามารถเข้าถึงและตรวจสอบฟุตเทจได้ในภายหลังหากจำเป็น และอาจส่งไปยังสถานีตรวจสอบระยะไกลเพื่อการรับชมแบบเรียลไทม์

3. ระบบกล้องวงจรปิดถูกนำมาใช้กันอย่างแพร่หลายในอุตสาหกรรมและการตั้งค่าต่าง ๆ เพื่อให้การรักษาความปลอดภัยและการเฝ้าระวัง ต่อไปนี้เป็นการใช้งานทั่วไปของกล้องวงจรปิดในอุตสาหกรรมและการตั้งค่าต่างๆ

– การค้าปลีก: ระบบกล้องวงจรปิดมักใช้ในร้านค้าปลีกเพื่อป้องกันการขโมยของในร้าน ตรวจสอบพฤติกรรมของพนักงาน และปรับปรุงการบริการลูกค้า ผู้ค้าปลีกใช้ระบบกล้องวงจรปิดเพื่อป้องกันการโจรกรรม ระบุพฤติกรรมที่น่าสงสัย และแสดงหลักฐานในกรณีที่เกิดเหตุการณ์ขึ้น

– งานบริการ: โรงแรม รีสอร์ท และสถานบริการอื่น ๆ ใช้ระบบกล้องวงจรปิดเพื่อตรวจสอบพื้นที่ส่วนกลาง เช่น ล็อบบี้ ลานจอดรถ และสระว่ายน้ำ เพื่อความปลอดภัยของลูกค้าและป้องกันการโจรกรรม ระบบกล้องวงจรปิดยังสามารถใช้เพื่อตรวจสอบการปฏิบัติงานของพนักงานและปฏิบัติตามนโยบายความปลอดภัยและความมั่นคง

– การคมนาคมขนส่ง: ระบบกล้องวงจรปิดมักใช้ในระบบขนส่งมวลชน เช่น รถประจำทาง รถไฟ และรถไฟใต้ดิน เพื่อเพิ่มความปลอดภัยของผู้โดยสารและตรวจสอบกิจกรรมทางอาชญากรรม ระบบกล้องวงจรปิดยังสามารถใช้ในสนามบินเพื่อตรวจสอบการจราจรของผู้โดยสารและรับรองความปลอดภัยของสนามบิน

– พื้นที่สาธารณะ: ระบบกล้องวงจรปิดมักจะใช้ในพื้นที่สาธารณะ เช่น สวนสาธารณะ ถนน และพื้นที่กลางแจ้งอื่นๆ เพื่อตรวจสอบกิจกรรมทางอาชญากรรมและเพิ่มความปลอดภัยสาธารณะ ระบบกล้องวงจรปิดยังสามารถใช้ในโรงเรียนและมหาวิทยาลัยเพื่อตรวจสอบพฤติกรรมของนักเรียนและป้องกันการกลั่นแกล้ง

– บริเวณที่พักอาศัย: ระบบกล้องวงจรปิดมักใช้ในบริเวณที่พักอาศัยเพื่อให้ความปลอดภัยและยับยั้งกิจกรรมทางอาญา เจ้าของบ้านใช้ระบบกล้องวงจรปิดในการตรวจสอบทรัพย์สินและป้องกันการลักขโมย การก่อกวน และอาชญากรรมอื่นๆ

สรุป ระบบกล้องวงจรปิดมีการใช้งานที่หลากหลายในอุตสาหกรรมและการตั้งค่าต่างๆ และมักใช้เพื่อเพิ่มความปลอดภัยและการเฝ้าระวัง

4. ระบบกล้องวงจรปิดสามารถช่วยเพิ่มความปลอดภัยสาธารณะและลดอาชญากรรมได้หลายวิธี

– การป้องปราม: การมีอยู่ของกล้องวงจรปิดสามารถทำหน้าที่ยับยั้งอาชญากรที่อาจเกิดขึ้นได้ เนื่องจากมีโอกาสน้อยที่จะก่ออาชญากรรมหากพวกเขารู้ว่ากำลังถูกติดตามและบันทึก

– การระบุตัวตน: ภาพจากกล้องวงจรปิดสามารถใช้เพื่อระบุตัวผู้ต้องสงสัยในกรณีที่เกิดอาชญากรรม ซึ่งสามารถช่วยบังคับใช้กฎหมายในการจับกุมและดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิด

– การป้องกัน: สามารถใช้ระบบกล้องวงจรปิดเพื่อป้องกันอาชญากรรมโดยให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตรวจสอบพื้นที่และดำเนินการหากตรวจพบพฤติกรรมที่น่าสงสัย

– หลักฐาน: ภาพจากกล้องวงจรปิดสามารถใช้เป็นหลักฐานในศาลเพื่อสนับสนุนคดีอาญา ซึ่งจะช่วยให้มีความเชื่อมั่นได้

– การตอบสนอง: ระบบกล้องวงจรปิดสามารถช่วยปรับปรุงเวลาในการตอบสนองต่อเหตุฉุกเฉิน เนื่องจากเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยสามารถตรวจจับและตอบสนองต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นภายในพื้นที่ตรวจสอบได้อย่างรวดเร็ว

สรุป ระบบกล้องวงจรปิดสามารถช่วยเพิ่มความปลอดภัยสาธารณะและลดอาชญากรรมโดยยับยั้งกิจกรรมทางอาญา ระบุตัวผู้ต้องสงสัย ป้องกันอาชญากรรม จัดหาหลักฐาน และปรับปรุงเวลาในการตอบสนองต่อเหตุฉุกเฉิน

5. มีประโยชน์หลายประการในการใช้ระบบกล้องวงจรปิดเพื่อความปลอดภัย

– การป้องปราม: การมีอยู่ของกล้องวงจรปิดสามารถทำหน้าที่ยับยั้งอาชญากรที่อาจเกิดขึ้นได้ เนื่องจากมีโอกาสน้อยที่จะก่ออาชญากรรมหากรู้ว่ากำลังถูกติดตามและบันทึก

– การตรวจสอบ: ระบบกล้องวงจรปิดช่วยให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยสามารถตรวจสอบพื้นที่ได้แบบเรียลไทม์ ซึ่งสามารถช่วยตรวจจับและตอบสนองต่อเหตุการณ์ได้อย่างรวดเร็ว

– หลักฐาน: ภาพจากกล้องวงจรปิดสามารถใช้เป็นหลักฐานในศาลเพื่อสนับสนุนคดีอาญา ซึ่งจะช่วยให้มีความเชื่อมั่นได้

– ประหยัดค่าใช้จ่าย: ระบบกล้องวงจรปิดเป็นวิธีที่ประหยัดต้นทุนในการรักษาความปลอดภัย เนื่องจากต้องใช้บุคลากรน้อยกว่าวิธีการรักษาความปลอดภัยแบบเดิม และครอบคลุมพื้นที่ได้กว้างกว่า

– การเข้าถึงระยะไกล: ระบบกล้องวงจรปิดสามารถเข้าถึงได้จากระยะไกล ซึ่งช่วยให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยสามารถตรวจสอบพื้นที่จากสถานที่ห่างไกลและตอบสนองต่อเหตุการณ์ได้อย่างรวดเร็ว

– ความปลอดภัยของพนักงาน: ระบบกล้องวงจรปิดสามารถปรับปรุงความปลอดภัยของพนักงานโดยการตรวจสอบอันตรายและป้องกันอุบัติเหตุในที่ทำงาน

– ฝ่ายบริการลูกค้า: ระบบกล้องวงจรปิดสามารถใช้เพื่อปรับปรุงการบริการลูกค้าโดยการตรวจสอบพฤติกรรมของลูกค้าและระบุจุดที่ต้องปรับปรุง

สรุป ระบบกล้องวงจรปิดเป็นวิธีที่ประหยัดต้นทุนในการเพิ่มความปลอดภัย ปรับปรุงความปลอดภัยของพนักงาน และติดตามพฤติกรรมของลูกค้า พวกเขาสามารถทำหน้าที่ยับยั้งอาชญากรที่อาจเกิดขึ้น ช่วยให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตรวจสอบพื้นที่แบบเรียลไทม์ และให้หลักฐานในกรณีที่เกิดเหตุการณ์

6. แม้ว่าระบบกล้องวงจรปิดจะมีประโยชน์อย่างมากสำหรับวัตถุประสงค์ด้านความปลอดภัย แต่ก็มีข้อเสียที่อาจเกิดขึ้นและข้อกังวลเกี่ยวกับการใช้งาน สิ่งเหล่านี้รวมถึง

– ข้อกังวลเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัว: ระบบกล้องวงจรปิดอาจละเมิดสิทธิความเป็นส่วนตัวของบุคคล เนื่องจากอาจถูกบันทึกโดยที่พวกเขาไม่รู้หรือไม่ยินยอม

– การใช้งานในทางที่ผิด: ระบบกล้องวงจรปิดอาจถูกนำไปใช้ในทางที่ผิดโดยเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยหรือคนอื่นๆ ซึ่งอาจใช้วิดีโอเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัวหรือเพื่อก่อกวนบุคคล

– ค่าใช้จ่าย: ระบบกล้องวงจรปิดอาจมีราคาแพงในการติดตั้งและบำรุงรักษา ซึ่งอาจเป็นข้อกังวลสำหรับธุรกิจหรือองค์กรขนาดเล็ก

– การบำรุงรักษา: ระบบกล้องวงจรปิดต้องการการบำรุงรักษาอย่างสม่ำเสมอเพื่อให้แน่ใจว่าระบบทำงานได้อย่างถูกต้อง ซึ่งอาจใช้เวลานานและมีค่าใช้จ่ายสูง

– ความปลอดภัยที่ผิดพลาด: การมีอยู่ของกล้องวงจรปิดอาจสร้างความรู้สึกปลอดภัยที่ผิดพลาดสำหรับบุคคล ซึ่งอาจคิดว่าพวกเขาถูกตรวจสอบอยู่เสมอ ดังนั้นจึงไม่ได้ใช้มาตรการรักษาความปลอดภัยที่เหมาะสม

– ปัญหาทางเทคนิค: ระบบกล้องวงจรปิดอาจประสบปัญหาทางเทคนิค เช่น การทำงานผิดพลาดหรือไฟดับ ซึ่งอาจทำให้ประสิทธิภาพของระบบลดลง

– การป้องกันข้อมูล: ภาพจากกล้องวงจรปิดอยู่ภายใต้กฎหมายคุ้มครองข้อมูล และองค์กรที่ใช้ระบบกล้องวงจรปิดต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าปฏิบัติตามกฎหมายเหล่านี้

สรุป แม้ว่าระบบกล้องวงจรปิดสามารถให้ประโยชน์ที่สำคัญสำหรับวัตถุประสงค์ดานความปลอดภัย แต่ก็ยังทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัว

การใช้งานในทางที่ผิด ค่าใช้จ่าย การบำรุงรักษา การรับรู้ความปลอดภัยที่ผิดพลาด ปัญหาทางเทคนิค และการปกป้องข้อมูล

สิ่งสำคัญคือต้องชั่งน้ำหนักผลประโยชน์กับข้อเสียที่อาจเกิดขึ้นและใช้มาตรการป้องกันที่เหมาะสมเพื่อลดข้อกังวลเหล่านี้

7. ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีมีผลกระทบอย่างมากต่อการพัฒนาระบบกล้องวงจรปิด ด้วยเทคโนโลยีใหม่ทำให้ระบบเหล่านี้มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลมากขึ้น ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีบางอย่างส่งผลกระทบต่อระบบกล้องวงจรปิด ได้แก่

– ปรับปรุงคุณภาพของภาพ: ความก้าวหน้าของเทคโนโลยีกล้องได้นำไปสู่การปรับปรุงคุณภาพของภาพ โดยกล้องที่มีความละเอียดสูงกลายเป็นเรื่องธรรมดามากขึ้น ทำให้สามารถจับภาพที่มีรายละเอียดมากขึ้น ซึ่งสามารถปรับปรุงประสิทธิภาพของระบบกล้องวงจรปิด

– การบันทึกแบบดิจิทัล: การเปิดตัวการบันทึกแบบดิจิทัลช่วยให้จัดเก็บและเข้าถึงฟุตเทจของกล้องวงจรปิดได้ง่ายขึ้น การบันทึกแบบดิจิทัลยังช่วยให้สามารถแชร์ฟุตเทจกับหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายและฝ่ายอื่นๆ ได้อย่างง่ายดาย

– ระบบเครือข่าย: ระบบกล้องวงจรปิดแบบเครือข่ายช่วยให้สามารถเข้าถึงฟุตเทจได้จากระยะไกล ซึ่งสามารถปรับปรุงเวลาตอบสนองและเพิ่มความยืดหยุ่นในการจัดการระบบกล้องวงจรปิด

– การวิเคราะห์วิดีโอ: ความก้าวหน้าในการวิเคราะห์วิดีโอทำให้สามารถวิเคราะห์ฟุตเทจได้โดยอัตโนมัติ ซึ่งสามารถช่วยตรวจจับพฤติกรรมที่น่าสงสัยและระบุภัยคุกคามด้านความปลอดภัยที่อาจเกิดขึ้นได้

– ปัญญาประดิษฐ์: การใช้ปัญญาประดิษฐ์ในระบบกล้องวงจรปิดกำลังเป็นที่นิยมมากขึ้น โดยอัลกอริทึม AI สามารถตรวจจับและตอบสนองต่อภัยคุกคามความปลอดภัยที่อาจเกิดขึ้นได้แบบเรียลไทม์

– ที่เก็บข้อมูลบนคลาวด์: ที่เก็บข้อมูลบนคลาวด์ช่วยให้สามารถจัดเก็บฟุตเทจได้จากระยะไกล ซึ่งสามารถให้ความปลอดภัยที่มากขึ้นและลดความเสี่ยงของการสูญหายของข้อมูลหรือการโจรกรรม

สรุป   ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีมีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อการพัฒนาระบบกล้องวงจรปิด ด้วยการปรับปรุงคุณภาพของภาพ การบันทึกแบบดิจิทัล

ระบบเครือข่าย การวิเคราะห์วิดีโอ ปัญญาประดิษฐ์ และพื้นที่เก็บข้อมูลบนคลาวด์ ล้วนมีส่วนช่วยให้เกิดประสิทธิผลและประสิทธิภาพของระบบเหล่านี้

8. การใช้ระบบกล้องวงจรปิดทำให้เกิดข้อพิจารณาทางกฎหมายและจริยธรรมหลายประการที่องค์กรต้องคำนึงถึง ข้อควรพิจารณาบางประการ ได้แก่

– การป้องกันข้อมูล: ระบบกล้องวงจรปิดจับภาพและจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคล และองค์กรต้องปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลเมื่อรวบรวมและประมวลผลข้อมูลนี้

– ความเป็นส่วนตัว: ระบบกล้องวงจรปิดอาจละเมิดสิทธิ์ความเป็นส่วนตัวของบุคคลได้ และองค์กรต่างๆ จะต้องดูแลให้สมดุลระหว่างความต้องการความปลอดภัยกับสิทธิ์ในความเป็นส่วนตัว

– ความยินยอม: องค์กรอาจต้องได้รับความยินยอมจากบุคคลในการจับภาพและใช้ภาพของตนผ่านระบบกล้องวงจรปิด

– การเข้าถึง: องค์กรต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่ามีเพียงบุคลากรที่ได้รับอนุญาตเท่านั้นที่สามารถเข้าถึงฟุตเทจของกล้องวงจรปิด และการเข้าถึงนี้จำกัดเฉพาะวัตถุประสงค์ด้านความปลอดภัยที่ถูกต้องตามกฎหมายเท่านั้น

– การเก็บรักษา: องค์กรต้องมีนโยบายที่ชัดเจนเกี่ยวกับการเก็บรักษาฟุตเทจของกล้องวงจรปิด และตรวจสอบให้แน่ใจว่าฟุตเทจนี้ไม่ถูกเก็บรักษาไว้นานเกินความจำเป็น

– การตรวจสอบ: องค์กรต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าระบบกล้องวงจรปิดไม่ได้ถูกใช้เพื่อตรวจสอบพนักงานหรือบุคคลอื่นในลักษณะที่เป็นการละเมิดสิทธิหรือละเมิดกฎหมายแรงงาน

– การฝึกอบรม: องค์กรต้องจัดให้มีการฝึกอบรมที่เหมาะสมแก่บุคลากรที่รับผิดชอบในการใช้งานระบบกล้องวงจรปิดเพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขาเข้าใจถึงภาระหน้าที่ทางกฎหมายและจริยธรรมของตน

– ความโปร่งใส: องค์กรต้องมีความโปร่งใสเกี่ยวกับการใช้ระบบกล้องวงจรปิด รวมถึงสถานที่ตั้งของกล้อง วิธีการใช้ฟุตเทจ และระยะเวลาที่เก็บรักษาไว้

– ความรับผิดชอบ: องค์กรต้องมีขั้นตอนที่ชัดเจนในการจัดการข้อร้องเรียนหรือข้อกังวลเกี่ยวกับการใช้ระบบกล้องวงจรปิด และเตรียมพร้อมที่จะรับผิดชอบต่อการกระทำของพวกเขา

สรุป  การใช้ระบบกล้องวงจรปิดจำเป็นต้องพิจารณาข้อพิจารณาด้านกฎหมายและจริยธรรมอย่างรอบคอบ

เพื่อให้มั่นใจว่ามีการใช้ในลักษณะที่เคารพสิทธิและความเป็นส่วนตัวของบุคคลในขณะที่มีมาตรการรักษาความปลอดภัยที่มีประสิทธิภาพ

9. ระบบกล้องวงจรปิด โดรน และกล้องติดร่างกายเป็นเทคโนโลยีการเฝ้าระวังทุกประเภท แต่มีความแตกต่างกันในแนวทางหลักหลายประการ

– สถานที่: โดยทั่วไประบบกล้องวงจรปิดจะติดตั้งในสถานที่คงที่ เช่น อาคาร ถนน และพื้นที่สาธารณะ ในทางกลับกัน โดรนเป็นอุปกรณ์เคลื่อนที่และสามารถบินไปยังสถานที่ต่างๆ ได้ ในขณะที่บุคคลทั่วไปจะสวมกล้องติดตัว

– พื้นที่ครอบคลุม: ระบบกล้องวงจรปิดสามารถครอบคลุมพื้นที่ขนาดใหญ่ได้ แต่ขอบเขตการมองเห็นจะจำกัดอยู่ที่ตำแหน่งของกล้อง โดรนสามารถครอบคลุมพื้นที่ได้กว้างกว่าและสามารถจับภาพวิดีโอจากมุมต่างๆ ได้ ในขณะที่กล้องบนร่างกายจะบันทึกภาพจากมุมมองของผู้สวมใส่

– วัตถุประสงค์: โดยทั่วไประบบกล้องวงจรปิดจะใช้เพื่อวัตถุประสงค์ในการเฝ้าระวังและรักษาความปลอดภัย ในขณะที่โดรนมักจะใช้สำหรับการเฝ้าระวัง ค้นหาและกู้ภัย และการใช้งานอื่นๆ เจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายใช้กล้องติดร่างกายเป็นหลักเพื่อบันทึกการโต้ตอบกับสาธารณะ

– ค่าใช้จ่าย: โดยทั่วไประบบกล้องวงจรปิดจะมีราคาถูกกว่าโดรนและกล้องติดร่างกาย ซึ่งจำเป็นต้องใช้เทคโนโลยีและอุปกรณ์ที่ซับซ้อนกว่า

– การจัดเก็บข้อมูล: โดยทั่วไปแล้วระบบกล้องวงจรปิดและโดรนจะจัดเก็บฟุตเทจไว้ในฮาร์ดไดรฟ์หรือที่เก็บข้อมูลบนคลาวด์ ในขณะที่กล้องบนตัวกล้องมักจะจัดเก็บฟุตเทจบนอุปกรณ์เอง

– ข้อพิจารณาด้านกฎหมายและจริยธรรม: เทคโนโลยีการเฝ้าระวังแต่ละประเภทมีการพิจารณาด้านกฎหมายและจริยธรรมที่แตกต่างกัน เช่น ข้อกังวลด้านความเป็นส่วนตัวและข้อกำหนดในการปกป้องข้อมูล

สรุป  แม้ว่าระบบกล้องวงจรปิด โดรน และกล้องติดร่างกายจะมีความคล้ายคลึงกันในแง่ของความสามารถในการเฝ้าระวัง

แต่ก็แตกต่างกันในหลายๆ ด้านหลัก ได้แก่ ตำแหน่ง พื้นที่ครอบคลุม วัตถุประสงค์ ต้นทุน การจัดเก็บข้อมูล และข้อพิจารณาทางกฎหมายและจริยธรรม

10. วงการกล้องวงจรปิดและกล้องวงจรปิดมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง และมีแนวโน้มและการพัฒนาในอนาคตหลายประการที่ควรค่าแก่การสังเกต ได้แก่

– ปัญญาประดิษฐ์ (AI): การใช้ AI ในกล้องวงจรปิดและระบบกล้องวงจรปิดคาดว่าจะเติบโตอย่างมากในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า ระบบที่ขับเคลื่อนด้วย AI สามารถตรวจจับและวิเคราะห์เหตุการณ์ ระบุวัตถุและบุคคลโดยอัตโนมัติ และแจ้งเตือนตามเวลาจริงแก่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย

– ระบบบนคลาวด์: ระบบวิดีโอเฝ้าระวังบนคลาวด์กำลังเป็นที่นิยมมากขึ้น เนื่องจากระบบเหล่านี้มีความสามารถในการปรับขนาด ความยืดหยุ่น และการเข้าถึงที่มากขึ้นเมื่อเทียบกับระบบในองค์กรแบบดั้งเดิม

– ความละเอียดสูงและความละเอียด 4K:  ในขณะที่เทคโนโลยีกล้องยังคงพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เราคาดว่าจะเห็นกล้องความละเอียดสูงและความละเอียด 4K มากขึ้นในระบบกล้องวงจรปิด ซึ่งให้ภาพที่คมชัดและมีรายละเอียดมากขึ้น

Edge Computing:  Edge Computing เกี่ยวข้องกับการประมวลผลข้อมูลใกล้กับแหล่งที่มา ซึ่งสามารถลดเวลาแฝงและปรับปรุงความสามารถในการตรวจสอบตามเวลาจริง ด้วยเหตุนี้ เราจึงคาดหวังได้ว่าจะเห็นระบบกล้องวงจรปิดที่ใช้ Edge Computing เพื่อประมวลผลข้อมูลวิดีโอมากขึ้น

– Internet of Things (IoT): การรวมระบบกล้องวงจรปิดกับอุปกรณ์ IoT อื่นๆ เช่น เซ็นเซอร์อัจฉริยะและอุปกรณ์เชื่อมต่อ คาดว่าจะเพิ่มขึ้นในอนาคต ทำให้ระบบเฝ้าระวังอัจฉริยะที่ครอบคลุมและครอบคลุมมากขึ้น

– การจดจำใบหน้า: การใช้เทคโนโลยีการจดจำใบหน้าในระบบกล้องวงจรปิดยังเป็นที่ถกเถียงกันอยู่ แต่คาดว่าจะแพร่หลายมากขึ้นในอนาคต เทคโนโลยีนี้สามารถใช้เพื่อระบุผู้ต้องสงสัยและติดตามความเคลื่อนไหวแบบเรียลไทม์

– การปกป้องความเป็นส่วนตัว: ด้วยความกังวลที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัว เราคาดว่าจะเห็นระบบกล้องวงจรปิดมากขึ้นที่ใช้เทคโนโลยีที่ช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัว เช่น การเบลอและการปิดบัง เพื่อปกป้องตัวตนของบุคคลที่ปรากฏในวิดีโอ

แนวโน้มเพิ่มเติมที่น่าสังเกตอย่างหนึ่งคือการใช้ระบบกล้องวงจรปิดร่วมกับเทคโนโลยีความปลอดภัยอื่น ๆ ที่เพิ่มขึ้น เช่น ระบบควบคุมการเข้าออกและระบบเตือนภัย

ด้วยการผสานรวมเทคโนโลยีที่แตกต่างกันเหล่านี้ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยสามารถตรวจสอบและตอบสนองต่อภัยคุกคามความปลอดภัย

ที่อาจเกิดขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น นอกจากนี้ คาดว่าการใช้ระบบกล้องวงจรปิดร่วมกับการวิเคราะห์ข้อมูลและการเรียนรู้ของเครื่องจะเพิ่มขึ้น

ทำให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยได้รับข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับรูปแบบและแนวโน้มของข้อมูลวิดีโอ สิ่งนี้สามารถช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพของระบบกล้องวงจรปิดและเพิ่มความปลอดภัยโดยรวม

กล้องวงจรปิดภายนอกอาคาร

ผลงานการติดตั้ง

ติดตั้งกล้องวงจรปิด
ย่านสวนหลวง ร 9
ติดตั้งกล้องวงจรปิด
ย่านถนนกาญจนาภิเษก
พุทธมณฑลสาย 7
ติดตั้งกล้องวงจรปิด
ย่านพุทธมณฑลสาย 7
รั้วไฟฟ้ากันขโมย
ติดตั้งรั้วไฟฟ้า
เขตดอนเมือง

คำถามที่พบบ่อย ของงานกล้องวงจรปิด

1.  กล้องวงจรปิด มีกี่แบบ ?

มีแบบระบบอนาล็อค แบบดิจิตอล และแบบไร้สายสัญญาณภาพ ซึ่งระบบอนาล็อคจะใช้สายสัญญาณ RG6 ในการเชื่อมสัญญาณ ส่วนดิจิตอลใช้สาย LAN ในการเชื่อมต่อ ส่วนกล้องไร้สายต้องใช้สายไฟในการเดินไฟไปเลี้ยงกล้อง

2.  ใช้ยี่ห้อไหนดีที่สุด ?

กล้องวงจรปิดทุกยี่ห้อดีหมดครับ แต่ยี่ห้อที่ขายดีๆ และเป็นที่รู้จักกันก็จะมีไม่มาก อย่างเช่น Hikvision Hiklook Dahua Panasonic Hiview ก็จะมีกันอยู่ประมาณนี้ที่นิยมติดตั้งกันในท้องตลาด

3.  บ้านเดียวควรติดกี่ตัว ทาวเฮาส์ควรติดกี่ตัว ?

บ้านเดียวที่นิยมติดกัน 8 ตัว โดยติดรอบบ้าน 6 ตัว และภายในบ้าน 2 ตัว คือชั้น 1 และ 2 ทางขึ้นลงบันได ส่วนทาวน์เฮาส์จะติดกัน 4 ตัว คือหน้าบ้าน 2 ตัว หลังบ้าน 1 ตัว และภาพรวมในบ้าน 1 ตัว

4.  ติดกล้องวงจรปิดแบบดิจิตอล หรืออนาล็อค อะไรดีกว่ากัน ?

ภาพที่ได้จากกล้องระบบดิจิตอลจะมีความคมชัดกว่าอนาล็อค ข้อเสียคือราคาดิจิตอลสูง ส่วนกล้องอนาล็อคก็จะมีภาพที่เกือบเทียบเท่ากล้องดิจิตอล การดูแลง่ายกว่า สามารถเอากล้องต่างยี่ห้อมาใช้ร่วมกันได้ ราคาถูก

5.  การดูภาพผ่านทางมือถือ ?

ทั้งระบบอนาล็อคและดิจิตอล หรือแบบไร้สาย สามารถดูภาพผ่านทางมือถือได้หมด และดูพร้อมๆ กันได้หลายคน ขึ้นอยู่กับสเปคของตัวเครื่องบันทึกว่าได้กี่คน แต่ส่วนมากไม่ต่ำกว่า 5 คน

6.  สินค้ารับประกันอย่างไร กี่ปี ?

จะอยู่ที่ 2-3 ปี ขึ้นอยู่กับแต่ละยี่ห้อและรุ่น ประกันจะครอบคลุมเฉพาะการเสียหายที่เกิดจากตัวสินค้า ไม่ได้เกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร หรือการไปดัดแปลงใดๆ ทั้งสิน ส่วนการบริการหลังการขายก็จะอยู่ที่ 1 ปี กล้องดับกล้องเสียเรียกได้ตลอด

7.  ค่าบริการหลังการขายหากหมดประกันแล้ว ?

การเรียกใช้บริการหลังการขาย หากเกินเวลา 1 ปีไปแล้ว แต่ละบริษัทก็จะมีการเรียกเก็บค่าบริการในการเข้าไปตรวจเช็ค ราคาเริ่มต้นที่ 1200-1500 ขึ้นอยู่กับการตกลงกัน

8.กล้องวงจรปิดเกิดการเสียหายอะไรมากที่สุด ?

ทีเจอบ่อยๆ ก็จะเป็นเรื่องของฮาร์ดดิสเสียหายมากกว่า รองลงมาก็คือตัวจ่ายไฟ เช่นอแดปเตอร์ มักเสียบ่อยๆ และเข้าไปเปลี่ยนใหม่

9.  กล้องวงจรปิดบันทึกได้กี่วัน ?

ต้องแจ้งพนักงานว่าต้องการกี่วัน จะคำนวณขนาดฮาร์ดดิสตามวันที่ต้องการ เพราะต้องดูหลายอย่างประกอบกันเช่น ความคมชัดของกล้อง จำนวนกล้อง DVR รองรับฮาร์ดดิสได้เท่าไหร การบีบอัดไฟล์ภาพ เพื่อคำนวณฮาร์ดดิสที่ต้องใช้

10.  จะเลือกบริษัทไหนติดตั้งให้ดี ?

พิจารณาจากราคาที่เสนอของใครถูกกว่า ดูรายละเอียดการออกแบบการติดตั้งอย่างไร เดินสายแนวไหน ใช้วัสดุอะไรบ้าง สเปคสินค้าต่างกันอย่างไร และการให้บริการหลังการขายจะดูแลกันอย่างไรต่อไป รวมถึงทุกๆ ระบบ ไม่ว่าจะ รั้วไฟฟ้ากันขโมย หรือ สัญญาณกันขโมยไร้สาย

11.  ติดตั้งกล้องวงจรปิดไปแล้วทำไมไม่ชัด ?

มีการระบุสิ่งที่ต้องการมองหรือป่าวว่าจะดูอะไร ภาพรวม หรือเฉพาะเจาะจง ไม่งั้นเจ้าหน้าที่ก็จะเลือกกล้องให้แต่การดูภาพรวมกว้างๆ ภาพที่ไม่ชัดแน่นอน เราระบุความต้องการให้ชัดเจนว่าจะดูอะไร ต้องการเห็นชัดขนาดไหน ถึงจะออกแบบให้ชัดได้

12.  ก่อนติดตั้งต้องเข้ามาประเมินหน้างานก่อนไหม ?

ควรให้เจ้าหน้าที่เข้าไปพูดคุยและดูแนวการเดินสายสัญญาณ ความคาดหวัง ความต้องการของลูกค้าให้ชัดเจนก่อนลงมือเข้าติดตั้ง เพื่อลดปัญหาที่อาจเกิดขึ้นระหว่างการทำงาน หรือไม่ถูกใจเจ้าของบ้านได้

13.  กล้องวงจรปิดภาพที่ได้มีความกว้างเท่าไหร ?

สเปคของกล้องที่เลือก จะบอกขนาดของเลนส์เอาไว้ว่าภาพที่ได้มุมองศาที่เท่าไหร หากเป็นกล้องและยี่ห้อที่มีมาตรฐานเขาจะมีเอกสารดาต้าซีสแจ้งให้ทราบ เฉลี่ยแล้วก็จะอยู่ที่ประมาณ 80 – 90 องศา ขึ้นอยู่กับเลนส์ที่เลือก และยี่ห้อ

รูปแบบของกล้องวงจรปิดที่เลือกใช้งาน

  • กล้องวงจรปิดอนาล็อก (Analog Camera)  คือ กล้องที่มีการใช้งานกันมาอย่างยาวนาน วิธีสังเกตว่าเป็นกล้องอนาล็อกก็คือการใช้สายสัญญาณที่เป็นชนิด RG6, RG59 หรือ RG11 แต่ก็มีหลายท่านนำสาย UTP

    ไปใช้เดินกับกล้องชนิดอนาล็อคเหมือนกันโดยผ่านตัวแปลงก่อนก่อนเชื่อมต่อกล้องและเครื่องบันทึก  กล้องวงจรปิดไร้สาย จะไม่ได้เป็นกล้องชนิดอนาล็อก นะครับ
  • กล้องวงจรปิดดิจิตอล (Digital Camera) คือ กล้องที่มีแนวโน้มการใช้งานมากขึ้น ด้วยราคาที่ไม่สูงมากเมื่อเทียบกับในอดีต ภาพที่ได้มีความคมชัดกว่าระบบอนาล็อค จุดสังเกตได้ง่ายๆ ก็คือการใช้สายสัญญาณจะเป็นสายชนิด UTP  หรือสาย LAN

    โดยตัว กล้องวงจรปิด NVR จะใช้คู่กัน ที่เราเรียกัน  
    กล้องชนิดดิจิตอลมีชื่อเรียก 4 ชื่อ คือ
  1. Digital Camera (ส่งสัญญาณ Digital ออกมาจากกล้อง)
  2. IP Camera (มี IP Address)
  3. Network Camera (กล้องเชื่อมต่อกับระบบเครือข่าย)
  4. กล้องวงจรปิด WiFi

ส่วนประกอบพื้นฐานที่ใช้กันของระบบกล้องวงจรปิด

  • กล้อง  (Camera)
  • เครื่องบันทึกภาพ (Video Recorder)
  • จอแสดงผล  (Display Monitor)
  • ระบบเครือข่าย  (Networking)
  • ระบบสายสัญญาณ  (Media)
  • แหล่งจ่ายไฟ  (Power Supply)

ตรวจเช็คจำนวนสินค้า | ข้อมูลสินค้า | ขอใบเสนอราคา

ติดต่อทางลายแอท
เฟสบุค
ติดต่อทางเมล
ติดต่อด่วน
ฝ่ายขายกล้องวงจรปิด
ฝ่ายขายกล้องวงจรปิด2

ประเภทกล้องวงจรปิดชนิดต่างๆ ที่นิยมนำมาใช้งานกัน

กล้องวงจรปิดภายใน

Indoor Fixed Camera

กล้องแบบมุมมองคงที่  ติดตั้งภายใน  

ด้วยสภาพพื้นที่ภายใน ความคมชัดของกล้องวงจรปิดทีเลือกใช้งานอาจไม่จำเป็นต้องใช้ความคมชัดสูงมาก

หากขนาดของห้องประมาณ 4X4 เมตร ความคมชัดแค่ 2MP ก็มีความเพียงพอต่อการดูภาพ หรือสามารถจะระบะตัวตนบุคคลที่เดินผ่านได้แล้ว

กล้องไฮวิชั่น

Outdoor Fixed Camera

กล้องแบบมุมมองคงที่ ติดตั้งภายนอก

ด้วยสภาพการใช้งานภายนอก ต้องระบุว่าจะดูอะไร หรือต้องการดูภาพรวมๆ ของพื้นที่ เราก็จะต้องเลือกกล้องให้เหมาะสมกับการใช้งาน

มีหลายครั้งที่ผู้ใช้งานไม่สามารถระบุได้ชัดเจนว่าจะต้องการดูอะไร จะเอาทั้งเฉพาะจุด และเอาทั้งภาพรวม สุดท้ายก็จะได้ภาพที่ไม่ดีเท่าที่ควรจะได้

ดังนั้นการกำหนดวัตถุประสงค์การใช้งาน หรือการดูต้องให้ชัดเจนก่อนเบื้องต้น เพื่อจะได้เลือกกล้องภายนอกอาคารได้อย่างเหมาะสมที่สุด

กล้องสปีดโดม

(PTZ: Pan / Tilt / Zoom Camera

กล้องแบบหมุนส่ายและซูมภาพได้

กล้องชนิดนี้มีทั้งที่เป็นกล้องขนาดเล็ก และขนาดใหญ่ การนำไปใช้งานส่วนมากจะเป็นลักษณะกล้องเสริมเพิ่มเติมจากกล้อง 2 ชนิดแรกที่กล่าวมาคือ

กล้องมุมมองคงที่ ทั้งภายในและภายนอกอาคาร กล้องแบบนี้เรามักเรียกว่ากล้องสปีดโดม นิยมใช้เพื่อทำการซูมเข้าไปดูรายละเอียดของเหตุการณ์ที่เฝ้าระวัง

ให้มีความคมชัด หรือดูภาพรวมการเคลื่อนไหวของสิ่งที่เฝ้าระวังอยู่ ณ ขณะนั้น ส่วนมากจะเป็นการติดภายนอก หรือพื้นที่กว้างๆ

กล้อง 360

Speed Dome Camera

กล้องหมุนส่ายและซูมแบบโดม

กล้องสปีดโดมอีกชนิดแต่จะเน้นเป็นการติดตั้งภายในอาคาร หรือเป็นการฝั่งเข้าไปในฝาเพดาน เป็นที่นิยมสำหรับพื้นที่ราชการที่มีฝาระดับสูง

หรือห้องขนาดใหญ่ที่มีฝา กล้องชนิดนี้มีความสะดวกในการดูภาพ ได้ภาพที่มีความคมชัดสูง สามารถซูมเพื่อดูรายละเอียดได้ดีมากๆ

แต่ข้อเสียของกล้องสปีดโดมทั้ง 2 แบบคือราคาจะสูง เลยไม่ค่อยได้รับความนิยมในการติดใช้งานทั่วๆไปมากนัก

กล้องวงจรปิดทรงกระบอก

Box Type Camera

กล้องแบบกล่อง

เป็นกล้องที่มีส่วนประกอบของเลนส์แยกออกจากตัวกล้อง ซึ่งปัจจุบันกล้องชนิดนี้ไม่ค่อยได้รับความนิยม เพราะมีความยุ่งยากในการใช้งาน

เพราะตัวกล้องกับตัวเลนส์จะต้องแยกซื้อกัน บางครั้งเมื่อเราซื้อตัวกล้องมาใช้งาน เราจะต้องใช้ความชำนาญในการเลือกซื้อเลนส์ที่เข้ากับสเปคด้วยกันให้ได้ด้วย

หากผู้จำหน่าย หรือฝ่ายขายไม่มีความชำนาญ อาจทำให้ได้ภาพที่ไม่สวย ไม่คม หรือเสียค่าใช้จ่ายในการเลือกซื้อเลนส์ใหม่อีกครั้ง

กล้องวงจรปิดโดม

Dome Type Camera

กล้องแบบโดม

กล้องชนิดนี้เหมาะสำหรับการนำไปใช้งานติดตั้งภายในบ้าน ภายในอาคารเพราะจะมีความสวยงานไม่เป็นที่สะดุดตาผู้พบเห็นมากนัก ส่วนมุมมอง หรือความกว้างของภาพก็ไม่ได้ต่างจากกล้องกระบอก

กล้องกระบอก

Bullet Type Camera

กล้องแบบทรงกระสุน

เป็นกล้องวงจรปิดที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เพราะมีความสะดวกในการใช้งาน มีการใส่เลนส์ของกล้องมาให้เรียบร้อยแล้ว ผู้ใช้งานสามารถติดตั้งและยึดกล้องวงจรปิดได้เลย

กล้องซ่อน

Spy Camera

กล้องแบบซ่อน / กล้องวงจรปิดจิ๋ว

กล้องชนิดนี้เป็น ชนิดพิเศษ ส่วนมากหากเป็นเรื่องของการรักษาความปลอดภัยจะไม่นิยมนำมาติดตั้งเพื่อใช้งานกัน

นิยมนำไปใช้เป็นการส่วนตัว หรือชั่วคราวเพื่อวัตถุประสงค์ในการจับผิดพฤติกรรม แล้วทำการเคลื่อนย้ายได้ง่ายๆ

กล้องอินฟาเรด

Infrared Camera

กล้องแบบอินฟาเรด

ปัจจุบันกล้องวงจรปิดเกือบทุกรุ่น ทุกค่ายจะต้องมีอินฟาเรดไว้ใช้งานเป็นมาตรฐานทั่วไป หรือเป็นจุดขายของกล้องวงจรปิด

ส่วนของรุ่นไหนจะส่องแสงสว่างได้ไกล ได้ใกล้ก็ต้องขึ้นอยู่แต่ละรุ่นที่เราเลือกนำไปใช้งาน

กล้องโดม

Fish eye Camera

กล้องแบบดูได้รอบตัว

กล้องแบบดูรอบทิศทาง มีทั้งที่เป็นแบบ 360 องศา หรือจะเป็นแบบ 180 องศา ก็แล้วแต่จะเลือกนำไปใช้งาน ข้อดูของกล้องวงจรปิดชนิดนี้คือเลือกนำไปติดตั้งแค่ตัวเดียว

ก็สามารถมองเห็นได้หมด แต่เราต้องดูสถานที่ในการติดตั้งด้วยว่าเหมาะสมหรือป่าว ความเป็นพื้นที่โล่ง กว้างไม่มีสิ่งกีดขวาง

กล้องติดตามเครื่องแต่งกาย

Wearable Camera

กล้องแบบติดตามเครื่องแต่งกาย

กล้องชนิดนี้ส่วนมากจะเป็น กล้องวงจรปิดใส่ซิม หากต้องการดู Online ในเมืองนอกทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะนิยมนำไปใช้งานกันเป็นส่วนมาก

เพราะช่วยในการจับภาพการทำงาน หรือบันทึกข้อมูลไปด้วย แต่ในเมืองไทยไม่ค่อยได้รับความนิยมเท่าที่ควร อาจด้วยราคาที่สูง

หรือลักษณะการใช้งานอาจไม่สะดวกในการใช้มากนักเพราะต้องทำการชาร์ตไฟเข้าเครื่องทุกครั้งที่จะออกนำไปใช้งาน หรืออาจเป็นรุ่นใช้ถ่านไฟเป็นตัวเลี้ยงกล้อง

ข้อแนะนำการออกแบบจุดติดตั้งกล้องวงจปิด

เพื่อให้ได้  “ภาพ”  ที่ดีมีประสิทธิภาพ

พื้นที่โดยรอบอาคาร

พื้นที่โดยรอบอาคาร

ส่วนที่ติดกับถนนหรือทางเดิน

ตรวจสิ่งที่เข้ามาในบริเวณพื้นที่ : การตรวจจับในพื้นที่แบบนี้ ส่วนมากก็จะเป็นลักษณะการดูภาพรวมๆ เน้นเลนส์ที่มีขนาดกว้าง ประมาณ 2.8mm  ดูการเคลื่อนที่ เคลื่อนไหวของคน และยานพาหนะ

กล้องวงจรปิดอาจจะเลือกใช้ที่ความคมชัดระดับ 1.3MP – 2MP ก็น่าจะเพียงพอ เพื่อการดูภาพรวมทั่วๆไปในจุดที่ตัดตั้ง

ช่องทางเข้า – ออกของยานพาหนะ

ส่วนที่ติดกับถนนหรือทางเดิน

ภาพยานพาหนะ ระบุประเภทและอ่านป้ายทะเบียนได้ : บริเวณนี้มักนิยมติดกันมาก แต่ส่วนมากก็จะมีปัญหากันเยอะ  การติดตั้งควรติดทั้งฝั่งขาเข้า และฝั่งขาออก

โดยจุดวางกล้องต้องอยู่ในระดับต่ำๆ ประมาณหัวเข่า ส่วนอีก 2 ตัวก็ติดในระดับสายตาทั้งฝั่งขาเข้าและฝั่งขาออก เพื่อดูการเข้าออกของคนในรถ หรือเดินผ่าน 

ความคมชัดของกล้องวงจรปิดต้องสามารถระบุตัวตนได้อย่างชัดเจน ไม่มีการต้องมานั่งเดาภาพกันอีก  ลักษณะของกล้องที่ใช้ในระดับตำแหน่งหัวเขากล้องต้องสามารถตัดแสงไฟหน้ารถได้

ความคมชัดประมาณ  2MP-4MP โดยต้องเลือกใช้เลนส์ที่มีความแคบ อยู่ที่ประมาณ  6mm  ส่วนอีก 2 ตัวที่เหลือก็เป็นเลนส์มุมกว้างๆ 2.8mm หรือ 3.6mm ก็ได้

ทางเข้าออกอาคาร

ช่องทางเข้า – ออกของบุคคล

จากที่จอดรถเข้าสู่อาคาร

ระบุตัวตนได้ และสิ่งของ :  ทางเข้าออกลัษณะนี้อาจจะเป็นสถานีโดยสารรถไฟฟ้า หรือขนส่งหมอชิต ขนส่งสายใต้ใหม่  เราต้องออกแบบให้ได้ภาพที่มีความคมชัดสูงในบริเวณทางเข้าออก

โดยต้องสามารถระบุตัวตนใบหน้าได้อย่างชัดเจน จะไม่มีการมานั่งเดาภาพที่ได้ในจุดนี้อีกแล้ว กล้องต้องมีความคมชัด หากเป็นบริเวณที่มีค่าของแสงแตกต่างกันมากๆ

ก็ต้องเลือกใช้งานกล้องที่มีฟั่งชั่น WDR ดีๆ หน่อยเพื่อให้ได้เห็นใบหน้าที่ชัดๆ ส่วนการเลือกใช้ความคมชัดอยู่ที่ประมาณ 4MP ก็จะดี แล้วเลือกเลนส์ที่ประมาณ 6mm, 8mm

เพราะจุดที่จะมองเน้นเฉพาะประตูทางเข้าอย่างเดียว ไม่เน้นบริเวณอื่นๆ แต่อย่างใด

ประตูเข้าสำนักงาน

บุคคลที่เข้าออก และสิ่งของที่นำมา :  ประตูทางเข้าสำนักงานส่วนมากจะเป็นการออกแบบดูภาพรวมๆ เน้นดูกว้างๆ ยิ่งมองได้กว้างก็จะชอบกัน แต่พอมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นก็จะดูภาพบริเวณนั้นไม่ชัด

ต้องอาศัยกล้องใกล้เคียงช่วยประกอบภาพอีกที แบบนี้ถือว่าใช้งานไม่ได้เต็มที่ ดังนั้นกล้องวงจรปิดที่ยจับภาพบริเวณเข้าออกอาคาร

อาจจะต้องกำหนดเอาไว้เลยว่าจับภาพแค่ประตูเท่านั้น และเน้นภาพที่มีความคมชัดสูงๆ เอาไว้สักตัวหนึ่ง เพื่อจะได้สามารถระบุตัวตนของบุคคลที่เข้าออกอาคารของเราได้ว่ามีหน้าตาแบบไหน

ส่วนเมื่อเข้ามาแล้ว เราก็ใช้เป็นการดูภาพรวมว่าเขาเดินไปทางไหน  ขึ้นไปชั่นไหน กล้องที่เลือกใช้ก็ต้องสามารถแก้ภาพย้อนแสงได้โดยต้องมีฟั่งชั่น WDR ความคมชัดสัก 4MP

โดยต้องใช้เลนส์ที่มีความแคบมากๆ เช่น  9mm, 12mm เน้นเฉพาะประตูเท่านั้น

ส่วนพักรอโถงใหญ่

ส่วนพักรอ โถงรับแขก

ภาพรวมของห้องโถงทั้งหมด :  จุดพักรอที่เป็นโถงใหญ่ บริเวณนี้ส่วนมากก็จะเป็นการดูภาพรวม  กล้องที่ใช้ในการติดตั้งก็อาจจะมีหลายๆ ตัว

เพื่อเก็บภาพให้ได้ทุกมุม หรือบ้างที่ก็จะทำการติดตั้งกล้องวงจรปิดสปีดโดมเสริมไว้บริเวณตรงกลางเพื่อดูรายละเอียดให้มีความชัดยิ่งขึ้น อย่างเช่นดูของที่ถือมา ดูใบหน้า ดูพฤติกรรม 

กล้องที่เลือกใช้ก็จะมีความคมชัดประมาณ 2MP ส่วนเลนส์ของกล้องก็อยู่ที่ประมาณ 2.8mm หรือ 3.6mm เน้นดูภาพรวม

บริเวณพนักงานต้อนรับ

บุคคลที่เข้ามาอย่างชัดเจน  :  บริเวณพนักงานตอนรับจุดนี้อาจจะเป็นพื้นที่กว้างๆ หรืออาจจะเป็นพื้นที่แคบ ๆ  ก็ได้ อย่างไรก็ดีต้องมีจุดติดตั้งกล้องที่สามารถมองภาพผู้มาติดต่อ และผู้ให้บริการอย่างชัดๆ ด้วยเหมือนกัน

และตัวกล้องเองก็ควรจะสามารถบันทึกเสียงการสนทนากันในบริเวณนั้นได้ด้วย เพื่อเวลามีปัญหาก็สามารถที่จะนำภาพ และเสียงมาประกอบยืนยันกันได้ด้วย มุมมองของกล้องที่เลือกใช้ก็ประมาณ 2.8mm หรือ 3.6mm

เน้นการมองมุมกว้างๆ ส่วนความคมชัดของกล้องก็ประมาณ 2MP  ระยะติดตั้งของตัวกล้องกับบริเวณที่จะดูต้องไม่ไกลเกิน 5 เมตร ถึงจะได้ภาพที่สามารถระบุตัวตนผู้ที่มาติดต่อได้

ช่องทางเดินภายในสำนักงาน

ภาพรวมของการเคลื่อนไหว : ช่องทางเดินในสำหนักงานส่วนมากจะเป็นการดูภาพรวมๆ ภายใน แต่ตัวกล้องทีติดตั้งจะเป็นลักษณะกล้องทรงโดมยึดติดกับตัวฝาเพดาน

โดยจุดที่ติดตั้งและเป็นช่องทางเดิน  หรืออาจจะติดจากมุมห้องภายในสำนักงานเพื่อดูการเคลื่อนไหวไปมาของเจ้าหน้าที่  การเลือกกล้องก็มักจะเป็นกล้องมุมกว้างๆ เช่นเลนส์ 2.8mm  

เน้นดูภาพรวม ส่วนเรื่องของความคมชัดก็อยู่ที่ประมาณ 1.3MP  หรือ 2MP ก็พอแล้ว ไม่จำเป็นต้องใช้กล้องความคมชัดสูงมากกว่านี้จะได้ไม่เปลืองงบประมาณ เพราะความคมชัดระดับ 2 ล้านพิกเซล

มีระยะความคมชัดอยู่ที่ประมาณ 5 เมตร 

ข่องทางเดินในสำนักงาน

บริเวณภายในสำนักงาน

ดูภาพรวมของพื้นที่ทั้งหมด  :  การติดตั้งกล้องวงจรปิดภายในสำนักงานถือว่าได้รับความนิยมเป็นอย่างมากสำหรับผู้บริหารที่มักต้องการกัน แต่ในส่วนของผู้ปฎิบัตงานในสำนักงานอาจมีความรู้สึกว่าเป็นการจับผิดหรือป่าว

บ่อยครั้งที่ทำการติดตั้งแล้วผู้อยู่ในบริเวณนั้นจะมีความรู้สึกไม่ค่อยดี แต่เชื่อเถอะครับ ช่วงแรกๆ ก็อาจรู้สึกอึดอัด แต่พออยู่ไปนานๆ จะลืมไปเลยว่ามีกล้องวงจรปิดติดตั้งอยู่ในบริเวณนี้ ซึ่งจริงๆ ผลดีมีมากมาย อย่างน้อยในแง่ของความปลอดภัย ก็ช่วยได้

ในแง่ของเจ้าของ ก็อาจทำให้พนักงานมีความตั้งใจทำงานมากขึ้น เพราะคิดว่ามีคนจับตามองเราอยู่  การเลือกใช้กล้องในสำนักงานส่วนมากก็จะเป็นการดูภาพรวมๆ ตัวกล้องก็มักจะทำการติดจากมุมห้อง

เพื่อดูภาพรวม บางครั้งก็จะติดเป็นกล้องที่สามารถฟั่งเสียงได้ด้วย สามารถหมุ่นส่ายไปมาได้ด้วย แล้วแต่ความต้องการ ความคมชัดที่นิยมก็จะไม่ต่ำกว่า 2MP เลนส์ที่เลือกใช้ก็อยู่ที่ประมาณ 2.8mm

สถานที่จอดรถจักรยานยนต์

พื้นที่จอดรถจักรยานยนต์

ดูภาพทั้งหมดของพื้นที่ลานจอดรถ : พื้นที่จอดรถจักรยานยนต์ ปัญหาที่เจอก็จะเป็นการขโมยหมวกกันน็อค ขโมยอะไหล่รถ โดยส่วนมากการติดตั้งกล้องวงจรปิดในบริเวณนี้จะเป็นการดูภาพรวม

ถ้าหากเป็นพื้นที่จอดขนาดใหญ่ อย่างเช่นในห้างสรรพสินค้า ในอาคารสำนักงาน แต่หากเป็นออฟฟิศขนาดเล็กอันนี้ไม่ค่อยมีปัญหาเพราะกล้องสามารถจับภาพได้ชัดกว่า พื้นที่ใหญ่ ๆ 

ดังนั้นการวางจุดกล้องต้องทำการติดตั้งให้ครอบคลุมพื้นที่ทั้งหมด รวมถึงประตูทางเข้า และทางออกเฉพาะของบริเวณจอดรถมอเตอร์ไซร์ด้วย กล้องวงจรปิดที่ใช้หากเป็นพื้นที่ที่ไม่สว่างมากนักก็ต้องเลือกเป็นกล้องที่มีอินฟาเรดไปด้วยเลย

ต้องเลือกความคมชัดที่ไม่ต่ำกว่า 2MP หากเป็นไปได้เพิ่มความคมชัดมากว่านี้ก็ได้เพื่อให้เห็นรายละเอียดได้มากยิ่งขึ้น ส่วนการเลือกเลนส์ของกล้องก็คงจะเป็นภาพกว้างๆ เช่น เลนส์ 2.8mm, 3.6mm

ที่จอดรถรับจ้าง

ที่จอดรถรับส่ง – จอดรถรับจ้าง

ภาพความเคลื่อนไหวทั้งหมด :  บริเวณนี้อย่างเช่นหน้าโรงแรม หน้าโรงเรียน หรือป้ายรถเมล์ จุดนี้มากจะมีการขอดูภาพจากกล้องวงจรปิดกันมาก โดยเฉพาะป้ายรถเมล์ต่างๆ

เพราะอาจจะเกิดจากการลืมสิ่งของเอาไว้ในรถโดยสาร อยากรู้ป้ายทะเบียนที่นั้งมา หรือเกิดเหตุการณ์ต่างๆ ที่ไม่คาดคิดเช่น การวิ่งราวกระเป๋านักท่องเที่ยวเป็นต้น

การติดตั้งกล้องบริเวณนี้ส่วนมากก็จะเป็นการดูภาพรวมๆ แค่ดูการเคลื่อนไหวของผู้คน และยานพหนะต่างๆ เท่านั้น จะเน้นเพื่อดูป้ายทะเบียนเลยก็อาจจะต้องลุ้นกันหน่อยว่าเห็นหรือป่าว

เพราะวัตถุประสงค์การติดก็เพือดูภาพรวมๆ กว้างๆ อยู่ตั้งแต่แรกแล้ว  ดังนั้นหากเป็นไปได้ก็อาจจะเลือกกล้องที่มีความคมชัดสูงหน่อยประมาณสัก 4MP

เพื่อให้มองภาพได้ไกลและชัดมากยิ่งขึ้น หรือจะเพิ่มกล้องเพื่อให้ได้มุมมองที่ขาดหายไปมากขึ้นก็ได้ ส่วนเลนส์ที่เลือกก็จะประมาณ 2.8mm

จุดขึ้นลงสินค้า

จุดรับส่งสินค้า

ดูการขนส่งสินค้า : การออกแบบจุดรับส่งสินค้าต้องดูว่าพฤติกรรมการนำรถเข้ามาเทียบท่า หรือเอารถเข้ามาจอดเป็นแบบไหน อย่างบางที่ก็จะให้รถถ่อยหลังเข้ามาจอด บางที่ก็เอาหน้าเข้า แล้วทำการขนย้ายด้านหลัง 

การวางจุดกล้องก็ต้องวางให้เหมาะสม และกำหนดการจอดของรถที่เข้ามาให้เหมือนกัน เพื่อง่ายต่อการควบคุมและบริหารจัดการของผู้ปฎิบัติงาน และภาพที่ได้จากกล้องวงจรปิดก็จะมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

การเลือกว่าจะใช้กล้องความคมชัดเท่าไหร อันนี้ก็ต้องประกอบกับขนาดของสินค้าด้วยว่ามีขนาดในการส่งเป็นแบบไหน เช่น เป็นกล่องขนาดใหญ่ เป็นกล่องเล็กๆ แต่หากสินค้ามีความหลากหลาย

เราก็ต้องออกแบบให้กล้องสามารถจับวัตถุที่มีขนาดเล็กมากทีสุดได้ เพื่อเมื่อเกิดเหตุแล้วเราสามารถดูภาพย้อนหลังดูรายละเอียดได้เป็นอย่างดี  ความคมชัดขึ้นต่ำก็อยู่ประมาณ 2MP

ส่วนการเลือกเลนส์ของกล้อง ก็เอาขนาดที่มีความแคบไว้ก่อน เช่น 9mm. และต้องทำการโฟกัสเฉพาะจุดรับส่งสินค้าเท่านั้น มุมในการมองก็ต้องเฉพาะบริเวณนั้นอย่างเดียวถึงจะชัด

ตู้ขายสินค้า

ตู้ขายสินค้า

ดูบุคคลและสิ่งของ : ตู้ขายสินค้าหากสังเกตุถ้าหากเป็นตู้ที่ทำการผลิตขึ้นมาใหม่ก็จะนิยมฝั่งกล้องวงจรปิดเอาไว้ที่ตู้ได้เลย เพราะเราสามารถเลือกเลนส์ของกล้องที่มีความกว้างเยอะๆได้ เช่น 180 องศา

อย่างเช่นตู้ ATM แต่หากเราไม่สามารถติดกล้องวงจรปิดไปในตู้ได้ เราก็ต้องหามุมใหม่โดยการติดนอกตู้  ลักษณะการติดก็แล้วแต่ความชอบ และวัตถุประสงค์ของผู้ต้องการภาพ

บางครั้งก็ติดด้านข้างเพื่อดูการกด และการใช้งสน หรือบางที่ก็ติดบริเวณด้านบน กดลงมาตรงๆ เพื่อดูการทำงานให้ชัด บ้างครั้งก็ติดจากด้านหลังเพื่อดูภาพรวม หากมีหลายๆ ตู้ 

การเลือกความคมชัดกล้องตัวกล้องวงจรปิดก็จะต้องสามารถระบุตัวตนผู้ที่เข้ามาใช้บริการให้ด้วยด้วย เพื่อว่าหากเกิดการเสียหายจากการใช้ผิดวิธี ก็สามารถตามตัว

ระบุตัวตนได้อย่างไม่ต้องสงสัยกันอีกเลย ความคมชัดประมาณ 2MP ก็น่าจะพอถ้าหากบริเวณติดตั้มีขนาดไม่เกิน 5X5 เมตร แต่หากกว้างกว่านี้ก็ต้องเพิ่มความคมชัดมากขึ้น ส่วนเลนส์ก็ 2.8mm

ช่องทางเข้าออกหลัก

ภาพที่ระบุบุคคลและสิ่งของได้ :  ทางเข้าออกหลัก อาจจะเป็นคอนโด  อพาร์ทเม้น หรืออาคารบ้านพักต่างๆ  ภาพที่จะต้องได้จากบริเวณนี้ต้องมีความชัดเท่านั้น ต้องสามารถระบุตัวตนได้ว่าเขาเป็นใคร

ถึงแม้จะเป็นบุคคลที่เราไม่เคยเจอมาก่อน หรือเคยเจอมาแล้ว ต้องสามารถระบุได้อย่างชัดเจน ไม่มีข้อสงสัยใดๆ ทั้งสิ้น อย่างน้อยตัวกล้องที่ติดต้องไม่เน้นภาพรวม

แต่ให้เน้นเฉพาะประตูทางเข้าโดยเฉพาะเพื่อเราจะได้ภาพที่ชัดเจน หลายๆ ครั้งผู้ติดตั้ง และเจ้าของพื้นที่จะไปเน้นดูภาพรวมกันเป็นส่วนมาก ยิ่งมองได้กว้างยิ่งชอบ แต่ภาพไม่ชัด ใช้ประโยชน์จากภาพไม่ได้เลย

เมื่อเกิดเหตุการณ์ขึ้นมา โชคดีหน่อยหากเป็นบุคคลที่เคยเจอกันมาก่อน หรืออาศัยอยู่ในอาคารก็พอที่จะเดาได้บ้างว่าหน้าตาของเค้าคล้ายๆ แต่หากเป็นคนอื่นที่ไม่รู้จักมาก่อน อันนี้ก็หาข้อมูล หรือเดาอะไรไม่ถูกเลย

กลายเป็นว่ากล้องไม่สามารถนำภาพมาใช้งานได้เลย การเลือกกล้องความคมชัดประมาณ 2MP ก็ได้แล้ว แต่จุดติดตั้งต้องไม่ไกลจากประตูทางเข้าจนเกินกว่า 5 เมตร ไม่อย่างนั้นอาจมองหน้าไม่ชัดเลย

ส่วนเลนส์กล้องก็เลือกให้แคบเข้าไว้ให้เห็นแค่เฉพาะประตูขนาดประมาณ 6mm หรือ 9mm

ทางเดินในสวน

บริเวณทางเดิน และที่นั่งรอ

ภาพการเคลื่อนไหวในพื้นที่ :  บริเวณนี้อาจจะเป็นพื้นที่ในสวนสาธารณะ หรือสถานออกกำลังกาย  การติดตั้งกล้องวงจรปิดในบริเวณนี้ต้องสามารถจำแนกได้ด้วยสายตา

สามารถที่จะยืนยันได้อย่างมั่นใจว่าเป็นบุคคลที่เราเคยเห็นมาก่อน รวมถึงความชัดเจนในการดูรายละเอียดของป้ายทะเบียนรถได้ การติดตั้งกล้องจะต้องไม่ไกลจากบริเวณนั่งรอนี้มากนัก

ระยะอยู่ที่ไม่เกิน 10 เมตร และไม่ติดตั้งสูงจากพื้นดินมากเกินไปเพราะอาจมองไม่เห็นหน้า ไม่เห็นป้ายทะเบียน ความคมชัดของกล้องวงจรปิดต้องไม่ต่ำกว่า 2MP

หากเพิ่มได้มากกว่านี้ก็ยิ่งดี ภาพก็จะชัดมากขึ้น และติดระยะได้ไกลมากขึ้นไปอีก ส่วนการเลือกเลนส์ของกล้องว่าอยู่ที่ประมาณ 3.6mm, 6mm, 8mm

ลิฟท์ผู้โดยสาร

โถงหน้าลิฟท์ หรือทางขึ้น

ภาพคนและสิ่งของที่นำมาในบริเวณนี้ :  การติดตั้งกล้องวงจรปิดในลิฟท์อาจมีความยิ่งยาก อาจมีการแก้ไข ซ่อมแซมกันอยู่ตลอด เราจึงนิยมมาติดตั้งกล้องบริเวณชั้น 1 โถงหน้าลิฟท์กัน

เพื่อลดปัญหาค่าใช้จ่าย และการดูแลรักษาสายสัญญาณในห้องลิฟท์  การเลือกติดกล้องวงจรปิดหน้าลิฟท์อาจเลือกความคมชัดที่ 1.3MP หรือ 2MP ก็พอแล้ว เพราะพื้นที่ในบริเวณนี้ไม่กว้างมากนัก

เน้นการเลือกใช้เลนส์มุมกว้างประมาณขนาด 2.8mm  การเลือกมุมกล้องก็ต้องทำการวางให้ครบคุมทั้งพื้นที่ หากลิฟท์มีสองฝั่ง ก็ต้องวางกล้องให้เห็นภาพได้หมด

หากไม่ได้ก็ต้องทำการเพิ่มกล้องเข้าไปอีก โดยเฉลี่ยทั่วไปมุมกล้องก็จะมีความกว้างอยู่ที่ 80 องศา เป็นอย่างน้อย แล้วแต่จะเลือกรุ่นไหน ชนิดไหนกันครับ

ทางเข้าห้องน้ำ

ทางเข้าห้องน้ำ

คนและสิ่งของ :  การเลือกออกแบบกล้องวงจรปิดบริเวณหน้าห้องน้ำ ส่วนมากก็ต้องให้ได้ภาพที่สามารถนำไปยืนยันตัวตนผู้คนที่เดินผ่านไปมาได้ 

การออกแบบหากเป็นไปได้ก็ต้องติดช่วงแนวทางเดินที่จะเข้าไปห้องน้ำ  ก็จะได้ภาพที่มีความคมชัดดีมาก แต่หากว่าไม่ได้ก็ต้องติดจากข้างนอกตัวอาคาร

อันนี้ก็ต้องดูมุม และระยะความคมชัดให้พอดี ไม่อย่างนั้นก็จะได้ภาพที่เป็นการดูแบบภาพรวม ไม่สามารถระบุตัวตนคนที่เดินผ่านไปมาได้ แล้วก็ไม่สามารถนำภาพที่ได้มาใช้ประโยชน์อะไรได้เลยเพราะภาพไม่ชัด

พื้นที่ส่วนที่หวงห้าม พื้นที่ไม่ควรมีคนเข้าไป

ดูผู้ที่เข้ามา (บุกรุก)  :  บริเวณนี้ควรจะเพิ่มฟั่งชั่นการแจ้งเตือนเมื่อมีการเคลื่อนไหวผ่านหน้ากล้องได้ด้วยก็จะดีมากๆ เพราะคงไม่สามารถมานั่งเฝ้าหน้าจอเพื่อดูบริเวณลักษณะแบบนี้ได้ตลอดเวลา

การเลือกให้กล้องแจ้งเตือนเมื่อมีการบุกรุก ก็จะช่วยอำนวยความสะดวก และช่วยดูแลความปลอดภัยให้เราได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น การเลือกติดตั้งกล้องวงจรปิดในบริเวณนี้นั้น

ต้องสามารถตรวจจับ ระบุและยืนยันเป้าหมายได้ชัดเจน อย่างเช่น คน สัตว์ สิ่งของ ระบบการตรวจับการเคลื่อนไหว สามารถแจ้งเตือนได้ทั้งในห้องคอนโทรล และผ่านระบบมือถือ

บางครั้งหากเป็นพื้นที่ที่มีขอบเขตกว้างมากๆ ก็อาจจะต้องติดตั้งกล้องวงจรปิดชนิดสปีดโดมเสริมเข้าไปเพื่อช่วยให้เราตรวจสอบภาพหน้างานได้ดีมากยิ่งขึ้น

สามแยกไฟแดง

สามแยก สี่แยก

เห็นยานพาหนะ ลักษณะ สี รุ่นอย่างชัดเจน :  จุดสี่แยก สามแยก มักจะมีการขอดูภาพจากกล้องวงจรปิดมากพอสมควร บริเวณนี้สิ่งที่เราคาดหวังไม่ใช้แค่จะดูการเคลื่อนที่ของยานพาหนะเท่านั้น

แต่เราจะต้องดูป้ายทะเบียนของรถให้ชัดมากกว่า เพราะจะได้ตามตัวได้ว่าเป็นรถอะไรที่ไหน หากเรามองเห็นป้ายทะเบียนชัด ในส่วนของสีรถ ยี่ห้อรถก็จะดูได้ด้วย การเลือกใช้กล้องวงจรปิดตามสีแยก สามแยก

ต้องเลือกกล้องที่มีความคมชัดสูง ไม่ต่ำกว่า 4MP เพราะส่วนมากตัวกล้องจะอยู่สูง ส่วนการติดตั้งอาจจะต้องแยกกว่าเป็นเลนส์ใครเลนส์มัน ไม่เอาแบบติดตั้งตัวเดียวดูกล้องวงจรปิดได้ทุกเลนส์เลย

อย่างนี้อาจได้ภาพที่ไม่ชัด เอามาใช้ประโยชน์อะไรได้ไม่เต็มที่  ส่วนการเลือกขนาดของเลนส์กล้องวงจรปิดอาจจะต้องเลือกใช้เลนส์ขนาด 6mm หรือ 8mm เพื่อเน้นเฉพาะเลนส์ใครเลนส์มันเท่านั้น

สรุป

การตัดสินใจซื้อกล้องวงจรปิดราคา ไม่ใช่เป็นเหตุผลการตัดสินใจ มาใช้งาน เพื่อการเฝ้าระวัง หรือใช้ในการบริหารจัดการสำหรับบริษัท ห้างร้าน เรามีวัตถุประสงค์หลักๆ นั้นก็คือต้องการภาพ แต่ด้วยการขาดความเข้าใจในการออกแบบภาพให้มีความคมชัด

นำไปใช้ประโยชน์ได้จริงๆ เราจึงมักจะได้ภาพที่นำไปใช้งานไม่ได้ หรือไม่ชัดนั้นเอง   มีผู้ให้บริการน้อยทีมีความเชียวชาญและเข้าใจเรืองของภาพจาก กล้องวงจรปิด หากผู้ใดสนใจต้องการให้เราไปออกแบบให้สามารถติดต่อสอบถามเข้ามาได้ รวมถึงระบบ สัญญาณกันขโมย

ตรวจเช็คจำนวนสินค้า | ข้อมูลสินค้า | ขอใบเสนอราคา

ติดต่อทางลายแอท
เฟสบุค
ติดต่อทางเมล
ติดต่อด่วน
ฝ่ายขายกล้องวงจรปิด
ฝ่ายขายกล้องวงจรปิด2