ระบบตรวจจับการบุกรุกด้วยไฟเบอร์ออปติก (fiber optic intrusion detection system)

ระบบรักษาความปลอดภัยให้กับชีวิตและทรัพย์ปัจจุบัจมีอุปกรณ์ต่างๆ ออกมาวางจำหน่ายให้เราาเลือกใช้งานกันเป็นจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็น กล้องวงจรปิด รั้วไฟฟ้า สัญญาณกันขโมย

ซึ่งแต่ละประเภทก็ขึ้นอยุ่กับงบประมาณ สภาพหน้างาน ในที่นี้ก็เลยอยากจะขอแนะนำอีกอุปกรณ์นั้นก็คือ Fiber Defender Series ที่ช่วยตอบโจทย์หน่วยงานของท่านได้อย่างสมบูรณ์แบบที่สุด

 

 

สารบัญ

• เหมาะสำหรับพื้นที่ กว้าง ยาว และมีความซับซ้อนในพื้นที่
• มีความคงทน ถาวร อายุการใช้งานยาวนาน 30 ปี
• ป้องกันการระเบิด ในพื้นที่อันตรายสูงๆ
• ไม่ต้องใช้ไฟฟ้าตลอดระยะทางที่ติดตั้ง
• สรุป

 

สำหรับการทำงานของระบบ Fiber Defender Series นี้จะทำการตรวจจับและรายงานผลการบุกรุกให้เราได้ทราบอย่างทันเวลา ด้วยการตรวจจับการสั่นสะเทือนหากมีการมาสัมผัส

หรือโดนสายไฟเบอร์ออปติก ซึ่งเราทราบกันอยู่แล้วว่าการทำงานของ Fiber เป็นการทำงานด้วยแสง ซึ่งการติดตั้งตามแนวรั้ว หรือพื้นที่สามารถเดินสายสัญญาณได้ไกลมากถึง 25 กิโลเมตร

การออกแบบการป้องกันขโมย หรือป้องการการบุกรุกด้วยการทำ Fiber Optic มาใช้งานจึงเป็นอีก 1 วิธี ที่สามารถป้องกันทรัพย์สินของหน่วยงานและองกรณ์ของท่านได้ แต่ต้องบอกก่อนนะครับว่า

 

Fiber Defender Series

 

อุปกรณ์ชนิดนี้อาจจะไม่เหมาะกับการนำไปติดตั้งตามอาคารบ้านเรือน ส่วนใหญ่จะเป็นหน่วยงานขนาดใหญ่ เช่น สนามบิน เรือนจำ โรงงานผลิตน้ำมัน โรงงานผลิตก๊าซ โรงไฟฟ้า หรือสถาบันการเงิน และหน่วยงานราชการที่ต้องการความปลอดภัยสูงสุด

Fiber Defender สามารถที่จะระบุบริเวณที่เกิดเหตุณ์ให้เราทราบได้ว่าอยู่ที่บริเวณไหน ระยะห่างออกไปกี่เมตร ทำให้เจ้าของพื้นที่สามารถที่จะเข้าทำการตรวจสอบได้อย่างทันถ่วงที

สำหรับการเลือกใช้งานระบบนี้ต้องบอกก่อนว่าสินค้าเป็นเทคโนโลยีของอเมริกา ได้รับการรับรองจากกองทัพอากาศสหรัฐ ซึ่งเป็นการกำหนดความปลอดภัยสูงสุด ที่ได้ร้บการอนุมัตสำหรับพื้นที่จัดเก็บอาวุธนิวเคลียร์และทรัพยากรสำคัญ (PL1-N การป้องกันระดับ 1 – นิวเคลียร์)

 

ทำไมเราต้องเลือกใช้งานระบบตรวจจับการบุกรุกด้วยไฟเบอร์ออปติก

1. เหมาะสำหรับพื้นที่ กว้าง ยาว และมีความซับซ้อนในพื้นที่

ระบบ Fiber Defender Series เหมาะอย่างยิ่ง สำหรับพื้นที่ชายแดน หรือพื้นที่ ที่มีความเสี่ยง ความอ่อนไหวในการทำสิ่งกีดขว้าง อย่างเช่น รั้วไฟฟ้า ที่อาจจะดูขึงขัง น่ากลัว หรือรั้วลวดหนามแบบหีบเพลง ที่ดูหวาดเสียวน่ากลัว

สำหรับผู้ที่พบเห็น แต่หากเปลี่ยนเป็นระบบรั้วไฟเบอร์ออปติก ก็จะมีความรู้สึกที่ดีกว่า และตรวจจับพร้อมรายงานผลการบุกรุกได้ทันที ไม่ว่าจะอยู่ในระยะใดของพื้นที่ ที่เราทำการขึงสาย Fiber Optic โดยสามารถควบคุมพื้นที่ได้ไกลถึง 25 กิโลเมตร

ส่วนหนึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับระบบอื่นๆ คือเมื่อเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นมา เราอาจจะขาดการเฝ้าระวังในช่วงเวลาดังกล่าวได้ หรือระบบทำการแจ้งเตือน แต่ไม่มีความแม่นยำมากนัก อย่างเช่น ระบบกล้องวงจรปิด

 

 

หากมีใครปีนเข้าพื้นที่กำแพง ก็จะทำการแจ้งเตือนให้ทราบ โดยอาศัยระบบ AI เข้ามาช่วย แต่บางครั้งคนร้ายก็อาจจะรู้มุมกล้อง ทำหารหลบเลี่ยงเข้าทางด้านหลังกล้องวงจรปิด ก็ทำให้พลาดการแจ้งเตือนมายังส่วนกลางได้เหมือนกันครับ

แต่หากเราเปลี่ยนมาเป็นระบบ รั้วไฟฟ้ากันขโมย ก็เป็นอีกวิธีที่ได้รับความนิยมมากยิ่งขึ้น แต่สำหรับหน่วยงานราชการ หรือสถานที่อื่นๆ อาจจะดูไม่เหมาะสมก็ได้ เพราะมันทำให้ผู้พบเห็นมองว่าอันตราย อย่าได้เข้าไปใกล้ๆ

การเลือกใช้งานในแต่ละอุปกรณ์ก็อาจจะดูตามความเหมาะสมของแต่ละหน่วยงาน เพราะบางครั้งเราก็ต้องคำนึงถึงชุมชนในพื้นที่ใกล้เคียงในการเลือกอุปกรณ์ไปใช้งานด้วยครับ

อย่างตามแนวชายแดน บางครั้งด้านบนรั้วอาจจะมีลวดหนามอยู่ แต่คนร้ายอาจเอาคีมมาตัดรั้วตะแกรงด้านล่าง มุดเข้ามาในพื้นที่ได้ เราก็สามารถเอาอุปกรณ์ รั้วไฟเบอร์ออปติก ไปเสริมได้เหมือนกันครับ

 

2. มีความคงทน ถาวร อายุการใช้งานยาวนาน 30 ปี

ปัญหาส่วนหนึ่งของการติดตั้งอุปกรณ์รักษาความปลอดภัย คือ อายุการใช้งานมักจะมีระยะสั้น ทำให้เราต้องทำการเปลี่ยน ปรับปรุง และทำการดูแลอุปกรณ์กันอยู่ตลอด

เพื่อให้อุปกรณ์รักษาความปลอดภัยมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน อย่างเช่น กล้องวงจรปิด มีการรับประกันจากโรงงานประมาณ 3 ปี หลังจากนั้นก็หมดประกัน หากเสียก็ต้องดูแลกันไปตามสภาพ

หรือหากเป็นระบบ สัญญาณกันขโมย ยิ่งหากเป็นแบบไร้สาย แน่นอนว่าจะต้องมีการใส่แบทเตอรี่ให้กับอุปกรณ์ ซึ่งเราจะต้องทำการเปลี่ยนพลังงานให้มันใหม่ทุกๆ 2 ปี

 

 

จะเห็นได้ว่าปัญหาการดูแลรักษาอุปกรณ์ก็เป็นอีก 1 ปัญหาที่เราจะต้องดูแลให้อุปกรณ์มีความพร้อมในการใช้งานอยู่ตลอดเวลา ซึ่งระบบการตรวจจับไฟเบอร์ออปติก ก็ไม่แตกต่างกันมากนัก เพียงแต่ว่าอายุการใช้งานจะมีความยาวนานกว่าระบบอื่นๆ ได้ถึง 30 ปี

เพราะตัวสายไฟเบอร์ออปติก มีหารห่อหุ้มด้วยฉนวนที่คงทนแข็งแรงเป็นอย่างดี ป้องกันการกัดแทะของสัตว์ร้ายต่างๆ ได้ ป้องกันรังสียูวี เพราะอุปกรณ์ห่อหุ้มทำจากโพลีเอทิลีน ป้องกันสายไฟฟ้าแรงสูง ฟ้าผ่า หรือคลื่นวิทยุเรดาร์ ได้

อายุการใช้งานที่ยาวนานถึง 30 ปี และระบบมีประสิทธิภาพในการแจ้งเตือนให้ทราบเมื่อมีผู้บุกรุก จากบริเวณไหนของพื้นที่ ก็จะทำให้ผู้ใช้งานมีความสะดวก และมีความคุ้มค่ากับเงินที่ได้ลงทุนไป

การแจ้งเตือนของระบบ จะเป็นลักษณะของเสียง ที่ติดตั้งเอาไว้ในห้องคอนโทรล และจะแสดงกราฟวิ่งในบริเวณที่เกิดการแจ้งเตือน ทำให้ผู้ใช้งานรู้ได้ทันทีว่าบริเวณไหนเกิดเหตุการณ์ขึ้น นี้เป็นสิ่งที่ระบบนี้ทำได้ และมีงานใช้งานที่ง่ายไม่มีความซับซ้อนอะไรเป็นพิเศษมากนัก

 

3. ป้องกันการระเบิด ในพื้นที่อันตรายสูงๆ

การเลือกใช้อุปกรณ์รักษาความปลอดภัยด้วยระบบ Fiber Defender นี้ เหมาะอย่างยิ่งสำหรับหน้างานที่มีความเสียงสูง อย่างเช่นโรงงานผลิตไฟฟ้า โรงงานผลิตก๊าซ หรือโรงงานผลิตน้ำมัน

เพราะพื้นที่เหล่านี้ส่วนใหญ่แล้วจะเน้นอุปกรณ์ที่นำไปใช้งานที่ไม่เกิดประกายไฟ หรือจุดติดไฟได้ง่ายๆ ซึ่งปัญหาเหล่านี้เราจะเห็นได้จากการนำกล้องวงจรปิดไปใช้งาน

ซึ่งกล้องวงจรปิดที่มีการห่อหุ้มด้วยวัสดุที่ไม่เกิดการระเบิด หรือเกิดการไหม้ได้ง่ายๆ ก็จะต้องมีลักษณะพิเศษเฉพาะ และราคาก็ค่อนข้างสูง อายุการใช้งานก็มีจำกัดนั้นเอง

แต่หากตัดสินใจเลือกใช้งานระบบรักษาความปลอดภัยด้วยไฟเบอร์ออปติกนี้แล้ว ตัวอุปกรณ์สายสัญญาณของเราจะมีการห่อหุ้มด้วยโพลีเอทิลีน ทีมีความหนา ป้องก้ันสาย Fiber Optic ที่อยู่ภายในอีกชั้นหนึ่ง

ทำให้ช่วยป้องการการระเบิดทั้งจากเหตุการที่อยู่ภายนอก และภายในสายได้เป็นอย่างมาก ทำให้ผู้ใช้งานมั่นใจถึงคุณภาพได้เลยว่าไม่เกินอันตรายตามมาภายหลัง ด้วยมาตรฐานการยันยันคุณภาพจากกองทัพอากาศของสหรัฐอเมริกา ที่นำไปใช้งานในพื้นที่จัดเก็บนิวเคลียร์ของเขา

 

4. ไม่ต้องใช้ไฟฟ้าตลอดระยะทางที่ติดตั้ง

จุดเด่นของการเลือกใช้งานในระบบ Fiber Defender นี้คือ เราไม่จำเป็นต้องใช้การสื่อสารและพลังงานในภาคสนามนั้นหมายความว่าหากเราติดตั้งด้วย Fiber Optic เราไม่จำเป็นต้องหาจุดจ่ายไฟให้กับอุปกรณ์สายสัญญาณของเราระหว่างทางเลยครับ

ไม่เหมือนกับกล้องวงจรปิด ในแต่ละพื้นที่ ที่มีการติดตั้งเราจะต้องหาไฟฟ้าเป็นแหล่งจ่ายพลังงานให้กับอุปกรณ์ด้วยการขอหม้อแปลงไฟฟ้า จากหน่วยงานไฟฟ้าในพื้นที่นั้นๆ หรือทำการติดตั้งระบบโซล่าเซลให้กับอุปกรณ์ตามเสาไฟฟ้า

ทำให้ต้นทุนการติดตั้งอุปกรณ์อย่างกล้องวงจรปิด ก็จะมีต้นทุนที่สูงขึ้นไปอีก มีความเสียงเรื่องของไฟฟ้า ที่อาจจะดับตอนไหนก็ได้ ยิ่งวันที่ฝนตกหนัก กิ่งไม้หล่นทับสาย ก็ทำให้ระบบรักษาความปลอดภัยด้วยกล้องวงจรปิดขาดการบันทึกไปบางช่วง

 

 

ต้องรีบจัดส่งเจ้าหน้าที่เข้าซ่อมแซมดูแลไปตามลำดับ หรือหากเป็นการติดตั้งด้วยระบบโซล่าเซล ก็อาจจะมีความเสี่ยงเรื่องของการถูกขโมยแบทเตอรี่ขึ้นได้ เพราะราคาแบทเตอรี่ก็เป็นที่ทราบอยู่แล้วว่ามีราคาค่อนข้างสูง จึงเป็นเหตุจูงใจให้เกิดการขโมยขึ้นได้ง่าย

ความแตกต่างเมื่อเลือกใช้งานด้วยระบบ Fiber Defender นี้ ผู้ใช้งานจะลดต้นทุนโครงสร้างทางงานไฟฟ้าลงไปได้เป็นจำนวนมาก และติดตั้งได้ไกลมากถึง 25 กิโลเมตร ตลอดเส้นทางไม่ต้องมีไฟฟ้ามาจ่ายให้กับอุปกรณ์แต่อย่างใดเลย

นี้เป็นสิ่งที่ง่าย และดูแลรักษาได้ค่อนข้างง่ายเพระาอุปกรณ์ไม่มีไฟฟ้าเข้ามาร่วมในระหว่างทาง เรื่องไฟดับ ฟ้าร้อง ฝนตก น้ำท่วม จึงไม่มีผลต่อการเลือกใช้งานในระบบนี้เลย

 

 

ข้อมูลเพิ่มเติม

 

 

สรุป

ระบบตรวจจับการบุกรุกด้วยไฟเบอร์ออปติก Fiber Defender Series หากหน่ายงานไหนสนใจดูสินค้า และต้องการทำการสาธิตการทำงานสามารถติดต่อสอบถามกันเข้ามาได้เพื่อนัดหมายกัน ส่วนระบบนี้มีการติดตั้งใช้งานจริงๆ เลยก็จะอยู่ที่อาคารรัฐสภา ถนนสามเสน