กล้องวงจรปิดไร้สายของ Hikvision มีหลายเหตุผลที่ทำให้เป็นทางเลือกที่น่าสนใจ
1. ความละเอียดสูง กล้องของ Hikvision มักมีความละเอียดสูง ให้ภาพที่ชัดเจนและมีรายละเอียด
2. ความยืดหยุ่นในการติดตั้ง กล้องไร้สายของ Hikvision มีความยืดหยุ่นสูงในการติดตั้ง เนื่องจากไม่ต้องเดินสาย
3. การเชื่อมต่อและการตั้งค่าที่ง่ายดาย การเชื่อมต่อและการตั้งค่ากล้องไร้สายโดยทั่วไปเป็นเรื่องง่ายและสะดวก
4. การเข้าถึงระยะไกล สามารถเข้าถึงและดูภาพจากกล้องได้จากที่ใดก็ได้ผ่านสมาร์ทโฟนหรือคอมพิวเตอร์
5. คุณสมบัติขั้นสูง กล้องวงจรปิดของ Hikvision มักมาพร้อมกับคุณสมบัติขั้นสูง เช่น การตรวจจับการเคลื่อนไหว, การวิเคราะห์ภาพด้วย AI
6. ความปลอดภัยของข้อมูล มีการเข้ารหัสข้อมูลและมาตรการความปลอดภัยเพื่อป้องกันการเข้าถึงที่ไม่ได้รับอนุญาต
7. ความเสถียรของสัญญาณ กล้องไร้สายของ Hikvision มีความเสถียรสูงในการส่งสัญญาณ
8. การสนับสนุนและบริการหลังการขาย Hikvision มีชื่อเสียงในการให้บริการลูกค้าและการสนับสนุนที่ดี
9. ความทนทานและคุณภาพ ผลิตภัณฑ์ของ Hikvision มีความทนทานและคุณภาพสูง ทำให้เหมาะสมกับการใช้งานระยะยาว
10. การรวมเข้ากับระบบอื่นๆ กล้องของ Hikvision สามารถรวมเข้ากับระบบความปลอดภัยอื่นๆ ได้อย่างง่ายดาย
การเลือกกล้องวงจรปิดไร้สายของ Hikvision เป็นการลงทุนที่ดีสำหรับความปลอดภัย ด้วยคุณสมบัติขั้นสูงและความเสถียรที่มาพร้อมกับแบรนด์ที่มีชื่อเสียง
สอบถามข้อมูล สั่งซื้อ ขอใบเสนอราคา
HOT LINE : 081-700-4715, 089-815-7321, 081-721-5542
การเชื่อมต่อแลนเป็นการเชื่อมต่อในระยะใกล้ ได้มีการพัฒนารูปแบบของสถาปัตยกรรมแลนเพื่อการใช้งานที่หลากหลาย แต่ละประเภทมีประสิทธิภาพในการสื่อสารข้อมูลที่แตกต่างกัน
การพัฒนาแลนที่มีความเร็วต่ำจนถึงปัจจุบันจัดเป็นเครือข่ายที่มีความเร็วสูงในการส่งข้อมูล และสามารถส่งข้อมูลได้หลากหลายรูปแบบตามความต้องการของผู้ใช้งาน ในปัจจุบันสถาปัตยกรรมเป็นมาตรฐานและมีการพัฒนาแลนที่นำมาสู่การพัฒนาเครือข่ายที่พักอาศัย
กล้องวงจรปิดไร้สาย Hikvision
ประเภทของแลน
เครือข่ายแลนมีการประยุกต์ใช้ตามความต้องการอย่างกว้างขวาง หลากหลาย และต่อเนื่องอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ส่งผลให้แลนมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องทั้งด้านสถาปัตยกรรมแลนซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับการประยุกต์ใช้สื่อต่าง ๆ
อีเทอร์เน็ต
เป็นสถาปัตยกรรมของแลนที่มีการใช้งานอย่างแพร่หลาย เป็นการเชื่อมโยงเครือข่ายโดยใช้ทอพอโลยีแบบบัสและมีการพัฒนาประสิทธิภาพการทำงานอย่างต่อเนื่อง และยังมีการจัดทำมาตรฐานเครือข่าย
ในระยะแรกของเครือข่ายอีเทอร์เน็ตเป็นเครือข่ายที่มีความเร็วเพียง 10 เมกะบิต/วินาที ในปัจจุบันความเร็วของเครือข่ายอีเทอร์เน็ตมีค่าอย่างน้อย 1 กิกะบิต/วินาที
เครือข่ายแบบวงแหวนโทเค็น
โดยทั่วไปเรียกว่า เครือข่ายโทเค็นริง การทำงานบนเครือข่ายสามารถพูดได้ว่าเป็นการทำงานที่แทบจะไม่มีโอกาสในการชนกันของข้อมูล ระยะเวลาการรอคอยเพื่อการส่งข้อมูลหรือที่เรียกว่า โทเค็น สามารถคำนวณได้ค่อนข้างชัดเจนก่อนที่ข้อมูลชุดต่อไปจะส่งสู่ช่องทางการสื่อสาร
รูปแบบเครือข่ายโทเค็นริงใช้เทคนิคการส่งข้อมูลด้วยโทเค็น และการเชื่อมต่อเครือข่ายเป็นการเชื่อมต่อโดยใช้ทอพอโลยีเครือข่ายแบบวงแหวน ในการส่งข้อมูลสู่ช่องทางการสื่อสารจะมีการเข้ารหัส
ด้วยเทคนิคแบบสัญญาณอนุพันธ์แมนเชสเตอร์ ปัจจุบันองค์กรขนาดใหญ่ได้มีการประยุกต์ใช้งานกล้องวงจรปิดเครือข่ายโทเค็นริง และมีการพัฒนาด้วยทอพอโลยีเครือข่ายแบบดาวที่มีการใช้อุปกรณ์การเชื่อมต่อ
ที่สามารถควบคุมให้เฟรมข้อมูลมีการเคลื่อนตัวจากโหนดหนึ่งไปยังอีกโหนดหนึ่งอย่างต่อเนื่องในทิศทางเดียวกัน อุปกรณ์ที่สามารถเชื่อมต่อกับหลายสถานีและทำหน้าที่ควบคุมการส่งเฟรมข้อมูลในลักษณะนี้ เรียกว่า หน่วยการเข้าถึงหลายสถานี หรือเอ็มเอยู
สอบถามข้อมูล สั่งซื้อ ขอใบเสนอราคา
HOT LINE : 081-700-4715, 089-815-7321, 081-721-5542
ลักษณะของการเคลื่อนตัวของเฟรมข้อมูลในทิศทางเดียวกันตลอดเวลานี้ส่งผลให้โอกาสที่เฟรมข้อมูลจะมีการชนกันนั้นน้อยมาก นับเป็นประโยชน์หลักของการเชื่อมต่อแบบโทเค็นริง หากการส่งเฟรมข้อมูลมีปัญหาในระหว่างการส่งอุปกรณ์เอ็มเอยูจะสามารถลบเฟรมข้อมูลออกจากเครือข่ายได้
ความต้องการในการใช้เครือข่ายโทเค็นริงมีจำนวนมากขึ้น ความต้องการในการสื่อสารความเร็วสูงมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องในปัจจุบันการส่งข้อมูลของเครือข่ายโทเค็นริงสามารถขยายถึง 100 เมกะบิตวินาที โดยใช้วิทยาการเส้นใยนำแสง
ระบบต่อประสานข้อมูลแบบกระจายใช้เส้นใยนำแสง
โดยทั่วไปเรียกว่า เอฟดีดีไอ เป็นเครือข่ายมาตรฐานที่มีความเร็วในการสื่อสาร การเชื่อมต่อใช้วิทยาการเส้นใยนำแสง และส่งข้อมูลด้วยแสง ในระบบเครือข่ายเอฟดีดีไอสามารถใช้วิทยาการเส้นใยนำแสงเป็นสื่อทั้ง 2 ประเภท คือ เส้นใยชนิดโหมดเดียว และเส้นใยชนิดหลายโหมด
เส้นใยชนิดโหมดเดียวจะมีประสิทธิภาพในการส่งข้อมูลสูงกว่าชนิดหลายโหมดและระยะทางไกลกว่าและรวดเร็วกว่า และไม่มีการบิดเบือนหรือหักเหของแสงในช่องส่งสัญญาณ
จึงนิยมใช้เส้นใยชนิดโหมดเดียวเพื่อการเชื่อมโยงเครือข่ายแกนหลักในระยะทางไกลและเส้นใยชนิดหลายโหมดนิยมใช้เชื่อมโยงในอาคารหรือในระหว่างอาคารที่มีระยะทางใกล้เท่านั้น
การเชื่อมต่ในเครือข่ายเอพดีดีไอเป็นการเชื่อมต่อแบบวงแหวนจำนวน 2 วง และอุปกรณ์บนเครือข่าย การสื่อสารหลักจะทำบนวงแหวนนวงเดียว ส่วนวงแหวนอีกวงจะมีสภาวะว่าง
แต่ถ้าสายหลักมีความบกพร่องหรือเสียหายการสื่อสารจะใช้สายเชื่อมต่อวงแหวนที่สองมาสนับสนุนการสื่อสารให้คงสภาพบนเครือข่ายสามารถติดต่อสื่อสารได้เช่นเดิม
สอบถามข้อมูล สั่งซื้อ ขอใบเสนอราคา
HOT LINE : 081-700-4715, 089-815-7321, 081-721-5542
การส่งข้อมูลบนระบบเอฟดีดีไอเป็นการสื่อสารที่นอกจากจะมีความเร็วสูงแล้วยังเป็นการสื่อสารที่มีความปลอดภัยสูงและมีความน่าเชื่อถือมากอีกด้วย และยังมีประสิทธิภาพในการส่งข้อมูลด้วยวิทยาการเส้นใยนำแสง
ทำให้ระหว่างสถานนีสามารถห่างกันได้ถึง 2 กิโลเมตร และสามารถเชื่อมต่อได้มากที่สุดถึง 100 เซกเมนต์ และได้มีการพัฒนาสามารถใช้ใช้สายตีเกลียวคู่ได้ด้วยและเรียกเครือข่ายนี้ว่า
ระบบต่อประสานข้อมูลแบบกระจายใช้สายทองแดง การพัฒนาเครือข่ายเอฟดีดีไอในปัจจุบันมีชื่อ เอฟดีดีไอ-ทู มีประสิทธิภาพในการสื่อสารข้อมูลดีขึ้นกว่าเครือข่ายเอฟดีดีไอพื้นฐาน ดังนี้
- เอฟดีดีไอ – ทู สามารถควบคุมการส่งข้อมูลแบบสลับสายเพิ่มขึ้น นอกเหนือจากความสามารถในการควบคุมการส่งข้อมูลแบบสลับกลุ่มข้อมูลในเครือข่ายเอฟดีดีไปพื้นฐาน
- อัตราการส่งข้อมูลบนเครือข่ายเอฟดีดีไอ-ทู เป็นอัตราการส่งข้อมูลคงที่ ส่งผลให้ข้อมูลประเภทภาพเคลื่อนไหว และเสียงสามารถส่งไปเครือข่ายนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- ใช้เทคนิคในการรวมสัญญาณแบบการแบ่งเวลา หรือทีดีเอ็ม ส่งผลให้อุปกรณ์ต่าง ๆบนเครือข่ายสามารถสื่อสารพร้อมไนได้โดยไม่มีความหน่วง เรียกว่า การสื่อสารแบบไอโซโครนัส
อาร์ทเน็ต
สถาปัตยกรรมแลนที่ได้มีการพัฒนาและได้เป็นที่นิยมกันอย่างแพร่หลายเนื่องจากราคาในการติดตั้งต่ำ สถาปัตยกรรมอาร์กเน็ตไม่ได้มีการติดตั้งตามมาตรฐานและเมื่อมีการพัฒนาเทคโนโลยีเครือข่ายอีเทอร์เน็ต โทเค็นริง และเอฟดีดีไอ สถาปัตยกรรมนี้ก็ไม่ได้รับความนิยมอีกต่อไป
โลเคิลทอล์ก
สถาปัตยกรรมที่พัฒนาและใช้งานในระบบเครือข่ายของเครื่องคอมพิวเตอร์แอปเปิล แมคอินทอช มีราคาในการติดตั้งต่ำและสามารถติดตั้งได้ง่าย นิยมติดตั้งในเครือข่ายขนาดเล็กที่มีความต้องการในการใช้ทรัพยากรเครือข่ายร่วมกัน
การสื่อสารใช้โพรโทคอลแอปเปิลทอล์กพัฒนาตามมาตรฐานทำงานในชั้นเชื่อมข้อมูลของตัวแบบอ้างอิงโอเอสไอ การทำงานจะไม่รอตรวจจับการชนกันภายในช่องสัญญาณหากแต่จะเป็น
การป้องกันไม่ให้เกิดการชนกันของสัญญาณด้วยการส่งแพ็กเก็ตสู่เครือข่ายเพื่อบอกถึงสถานะความต้องการในการใช้เครือข่ายและการใช้งานของช่องสัญญาณเสร็จสิ้นลง โอกาสที่จะเกิดการชนกันของสัญญาณในช่องทางการสื่อสารจะมีน้อยมาก
การทำงานของโพรโทคอลแอปเปิลทอล์กจะสนับสนุนให้มีการเชื่อมต่อบนเครือข่ายขนาดใหญ่สามารถกำหนดเป็นเครือข่ายย่อยจำนวนหลาย ๆ เครือข่ายได้การเชื่อมต่อเครือข่ายมักเชื่อมต่อด้วยทอพอโลยีเครือข่ายแบบบัสหรือแบบดาวก็ได้ และสามารถเชื่อมต่อด้วยสายเอสทีพี หรือวิทยาการเส้นใยนำแสงก็ได้
สอบถามข้อมูล สั่งซื้อ ขอใบเสนอราคา
HOT LINE : 081-700-4715, 089-815-7321, 081-721-5542
เอทีเอ็ม
เครือข่ายที่ได้รับการพัฒนามาเพื่อการใช้งานที่เป็นเครือข่ายแกนหลักสำหรับการเชื่อมต่อขนาดใหญ่ที่ต้องการความเร็วในการสื่อสารและมีบริเวณการเชื่อมต่อกว้าง และมีลักษณะการเชื่อมต่อเพื่อการส่งข้อมูลจากแหล่งข้อมูลต้นทางไปสู่แหล่งรับข้อมูลปลายทางจะเป็นแบบจุดต่อจุด
แต่จุดอ่อนของการสื่อสารโดยใช้สถาปัตยกรรมเครือข่าย คือ ระยะเวลาในการสร้างช่องทางเพื่อการส่งข้อมูลจะใช้เวลานาน และข้อมูลเพิ่มเติมส่วนหัวที่เป็นส่วนของคำสั่งหรือขยายความจากระบบการสื่อสารจะต้องส่งไป
พร้อมกับเซลล์ข้อมูลในทุกเซลล์ข้อมูล จึงมีความสิ้นเปลืองเนื้อที่ในการส่งข้อความที่ต้องการสื่อสารและเป็นการเสียค่าใช้จ่ายอื่น ๆ มากกว่าการสื่อสารบนเครื่อข่ายอื่นๆ และการสื่อสารแบบแพร่สัญญาณหรือการสื่อสาร
แบบแพร่สัญญาณเฉพาะกลุ่มจะไม่สามารถทำงานได้ดีภายใต้สถาปัตยกรรมเครือข่ายเอทีเอ็ม
Related link : รั้วไฟฟ้า สัญญาณกันขโมย
การเลือกใช้กล้องวงจรปิดแบบไร้สายอาจมีปัญหาและความเสี่ยงที่ควรพิจารณา ได้แก่
1. ความเสี่ยงด้านความปลอดภัยของเครือข่าย กล้องไร้สายสามารถถูกแฮ็กหรือถูกบุกรุกได้ง่ายกว่าหากการเข้ารหัสและความปลอดภัยของเครือข่ายไม่เพียงพอ
2. ความไม่เสถียรของสัญญาณไร้สาย คุณภาพของสัญญาณอาจถูกจำกัดโดยระยะทาง, สิ่งกีดขวาง หรือการรบกวนจากอุปกรณ์อื่นๆ
3. ความจำเป็นในการชาร์จหรือเปลี่ยนแบตเตอรี่ กล้องไร้สายที่ใช้แบตเตอรี่อาจต้องมีการชาร์จหรือเปลี่ยนแบตเตอรี่เป็นระยะ
4. ความล่าช้าในการส่งสัญญาณวิดีโอ อาจมีความล่าช้าในการส่งสัญญาณวิดีโอจากกล้องไปยังอุปกรณ์บันทึกหรือจอแสดงผล
5. คุณภาพภาพและวิดีโอ ในบางรุ่น คุณภาพของภาพและวิดีโออาจไม่สูงเท่ากล้องที่มีสาย
6. การขึ้นอยู่กับเครือข่าย Wi-Fi หรืออินเทอร์เน็ต หากเครือข่ายล่ม กล้องก็จะไม่สามารถส่งข้อมูลได้
7. การตั้งค่าและการบำรุงรักษา การตั้งค่าเริ่มต้นและการบำรุงรักษาอาจซับซ้อนกว่ากล้องที่มีสาย
8. ความเสี่ยงในการขาดการเชื่อมต่อ กล้องอาจขาดการเชื่อมต่ออย่างกะทันหันเนื่องจากปัญหาเครือข่ายหรือไฟฟ้า
9. ระยะทำงานของอินฟราเรดในการมองเห็นยามค่ำคืน ในบางรุ่น ระยะทำงานของอินฟราเรดอาจไม่เพียงพอสำหรับการมองเห็นในที่มืด
10. การจำกัดคุณสมบัติบางอย่าง กล้องไร้สายบางรุ่นอาจมีการจำกัดคุณสมบัติ เช่น การซูมหรือการหมุนเลนส์
การเลือกใช้กล้องวงจรปิดไร้สายควรพิจารณาถึงปัจจัยเหล่านี้เพื่อให้เหมาะสมกับความต้องการและสภาพแวดล้อมของคุณ.
สอบถามข้อมูล สั่งซื้อ ขอใบเสนอราคา
HOT LINE : 081-700-4715, 089-815-7321, 081-721-5542