รูปแบบการประมวลพลของคอมพิวเตอร์
รูปแบบของการประมวลผลข้อมูลของคอมพิวเตอร์นั้น แบ่งออกเป็น 3 รูปแบบ ได้แก่ การประมวลผลส่วนบุคคล (Personal Computing) การประมวลผลแบบรวมศูนย์ (Centralized Computing) และการประมวลผลแบบกระจาย (Distributed Computing)
สอบถามข้อมูล สั่งซื้อ ขอใบเสนอราคา
HOT LINE : 081-700-4715, 089-815-7321, 081-721-5542
กล้องวงจรปิดราคาถูกคุณภาพดี
1. การประมวลผลส่วนบุคคล (Personal Computing)
การประมวลผลส่วนบุคคล คือ การใช้งานคอมพิวเตอร์เครื่องใดเครื่องหนึ่งเพื่อทํางานต่างๆ ตามที่ต้องการ โดยไม่มี การใช้โปรแกรมร่วมกับเครื่องคอมพิวเตอร์อื่น หรือไม่มีการติดต่อสื่อสารกับเครื่องคอมพิวเตอร์อื่นเลย ร
2. การประมวลผลแบบรวมศูนย์ (Centralized Computing)
เป็นระบบที่รวมการทํางานทุกอย่างไว้ที่คอมพิวเตอร์เพียงเครื่องเดียว ซึ่งองค์กรขนาดใหญ่จะใช้การประมวลผล แบบรวมศูนย์กับคอมพิวเตอร์ประเภทเมนเฟรม (Mainframe Computer) โดยมีผู้ที่ทําหน้าที่ควบคุมการประมวลผลของ คอมพิวเตอร์เพียงผู้เดียว ซึ่งเป็นเรื่องที่ยุ่งยากในการทํางาน
จึงได้พัฒนาไปเป็นการประมวลผลแบบแบตซ์ (Batch Processing) โดยใช้บัตรเจาะรู (Punched Card) และเทป (Tape) เป็นอุปกรณ์นําเข้าและอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูล จากนั้น ยังมีการพัฒนาการประมวลผลเป็นแบบออนไลน์ (On-line Processing) ซึ่งผู้ใช้สามารถใช้งานพร้อมกันได้หลายคน (Multiuser)
โดยการนําเข้าข้อมูลผ่านทางเครื่องปลายทางของระบบหรือที่เรียกว่า “เครื่องเทอร์มินอล (Terminal / Dumb Terminal) ซึ่งเป็นเครื่องคอมพิวเตอร์แบบธรรมดา มีลักษณะคล้ายกับไมโครคอมพิวเตอร์ แต่จะมีเพียงคีย์บอร์ดและจอภาพเท่านั้น
โดยมีการเชื่อมต่อกับเครื่องคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ที่อยู่ในสถานที่อื่น เครื่องปลายทางชนิดนี้ไม่มีหน่วยบันทึกข้อมูล หน่วยความจํา หรือหน่วยประมวลผล
ดังนั้น จึงเก็บข้อมูลหรือประมวลผลใดๆ ไม่ได้เลย เทอร์มินอลจะมีหน้าที่ในการนําเข้า ข้อมูลและแสดงผลข้อมูลเท่านั้น ในยุคแรกจะเป็นเทอร์มินอลแบบธรรมดา (Dumb Terminal)
ต่อมาได้มีการพัฒนาเพื่อเป็น การสนองตอบความต้องการของผู้ใช้มากยิ่งขึ้น กลายเป็นเครื่องเทอร์มินอลแบบเชิงปัญญา (Intelligent Terminal) ซึ่งมี ความสามารถในการทํางานบางอย่างได้ เช่น เครื่องเอทีเอ็ม เป็นต้น
การประมวลผลประเภทนี้จะมีข้อเสียคือ หากมีข้อมูลจํานวนมาก การประมวลผลจะช้าลง เนื่องจากมีเพียงเครื่อง แม่ข่ายเท่านั้นที่ทําการประมวลผลและจัดเก็บข้อมูลทุกส่วนนั่นเอง จึงได้มีการแก้ปัญหาด้วยการประมวลผลแบบกระจาย
สอบถามข้อมูล สั่งซื้อ ขอใบเสนอราคา
HOT LINE : 081-700-4715, 089-815-7321, 081-721-5542
3. การประมวลผลแบบกระจาย (Distributed Computing)
จากข้อจํากัดของคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลคือ ไม่สามารถตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ภายในองค์กรได้อย่าง ทั่วถึง และข้อจํากัดของการประมวลผลแบบรวมศูนย์ที่ค่อนข้างล่าช้า ดังนั้นจึงต้องมีการจัดสรรทรัพยากร เพื่อกระจายและ แจกจ่ายการใช้งานข้อมูลและทรัพยากรต่างๆ
ให้สามารถใช้ร่วมกันได้ให้ทั่วทั้งองค์กรและระหว่างหน่วยงานย่อยขององค์กร ด้วย เช่น ฐานข้อมูล ข่าวสาร เครื่องคอมพิวเตอร์ เครื่องพิมพ์ เครื่องโทรสาร และเครื่องสแกนเนอร์ เป็นต้น นอกจากนี้ การกระจายข้อมูลและทรัพยากรต่างๆ ทําให้การประมวลผลมีความรวดเร็วมากขึ้น
การที่ทุกส่วนงานขององค์กร และระหว่างหน่วยงานย่อยขององค์กรจะสามารถใช้ทรัพยากรต่างๆ ดังกล่าวข้างต้น ร่วมกันได้นั้น คอมพิวเตอร์ทุกเครื่องจะต้องเชื่อมต่อกันเป็นเครือข่ายที่เรียกว่า “เครือข่ายคอมพิวเตอร์ (Network Computer ซึ่งมีอยู่หลายรูปแบบ แต่ที่พบโดยส่วนใหญ่จะมีลักษณะเป็นแบบ Client / Server
โดยที่เครื่องแม่ข่าย (Server) จะทําการแจกจ่ายหน้าที่การทํางาน การประมวลผล และข้อมูลให้กับคอมพิวเตอร์แม่ข่ายด้วยกันเอง หรือคอมพิวเตอร์ลูกข่ายที่มี ประสิทธิภาพเพียงพอในการทํางานที่ได้รับมอบหมาย
สําหรับเครื่องลูกข่ายเครื่องอื่นๆ ก็จะมีหน่วยประมวลผลกลาง ของตัวเอง มีความสามารถในการจัดเก็บและทําหน้าที่บางส่วนได้โดยไม่ต้องพึ่งพาเครื่องแม่ข่าย (Server) จึงทําให้ ประมวลผลมีความรวดเร็วมากยิ่งขึ้นนั่นเอง
ปัจจุบัน นอกจากการกระจายการประมวล และฐานข้อมูลแล้ว ด้วยกระแสการใช้งานอินเตอร์เน็ตเพิ่มมากขึ้น ประมวลผลแบบกระจาย จึงได้มีการจัดสรรหน้าที่การทํางานต่างๆ ที่จะต้องเชื่อมโยงกับเครือข่ายอินเตอร์เน็ตให้ กับคอมพิวเตอร์อีกเครื่องหนึ่งโดยเฉพาะ เรียกว่า “เว็บเซิร์ฟเวอร์” (Web Server)
Related link : ราคาติดตั้งรั้วไฟฟ้า ระบบสัญญาณกันขโมยไร้สาย
สอบถามข้อมูล สั่งซื้อ ขอใบเสนอราคา