กล้องวงจรปิดไร้สาย ราคาถูก สะดวกในการเคลื่อนย้ายได้ง่าย

กล้องวงจรปิดไร้สาย ราคาถูก โจรไฮเทคส่งคลื่นรบกวนรีโมทและ ฉกทรัพย์สินในรถ เป็นข่าวดังครึกโครมขึ้นหน้าหนึ่งสำหรับหนังสือพิมพ์หลายเล่มเมื่อช่วงปลายเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา

ทั้งหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ หนังสือพิมพ์คมชัดลึก และ หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์เกี่ยวกับโจรไฮเทคส่งคลื่นรบกวนรีโมท และ กล้องวงจรปิด ขโมยทรัพย์สินในรถยนต์

ปัญหาในเรื่องโจรกรรมโดยเฉพาะคดีเกี่ยวกับการขโมยของในรถยนต์นับวันจะมีหลากหลายรูปแบบมากขึ้น เช่น ทุบกระจก หรือ การสแกนระบบรีโมตคอนโทรล

ล่าสุดคือมีการใช้คลื่นรบกวน หรือ แจมระบบรีโมตรถยนต์ไม่ให้ทำงานได้ ก่อนหน้าก็หน้านี้ก็เคยมีข่าวแต่จับโจรไม่ได้ เพราะถือเป็นการโจรกรรมทรัพย์สินภายในรถยนต์รูปแบบไฮเทคจริง ๆ

 

กล้องวงจรปิดไร้สาย ราคาถูก

แต่เหตุการณ์ล่าสุดตำรวจสายตรวจ สภ.บางแก้ว จังหวัดสมุทปราการได้จับกุมผู้รายได้ก็คือนายวิเชียร บรรดาศักดิ์ หนุ่มอายุ 48 ปี จับกุมขณะกำลังรื้อค้นทรัพย์สินภายในรถของผู้เสียหาย

และ จากการสอบถามของเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบว่า นายวิเชียรได้ใช้วิทยุสื่อสารดัดแปลงเพิ่มประสิทธิภาพกำลังส่งให้อยู่ในย่านความถี่เดียวกับรีโมตรถยนต์

เพื่อทำการรบกวนคืนรีโมตตัวจริงไม่ให้ทำงานตามปกติได้ แล้วยังรบกวนการส่งข้อมูลกล้องวงปิดในรถโดยมีรัศมีประมาณ 25-50 เมตร

ถือเป็นวิธีการของอาชญากรขั้นเทพ ที่แม้ไม่ใช่รูปแบบใหม่ เพียงแต่เป็นการพัฒนาต่อยอดอุปกรณ์ที่มีประสิทธิภาพแรงกว่าเดิม และ ใช้ได้กับรถยนต์ทุกประเภท

 

 

ดังนั้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เตือนประชาชนทั่วไปให้ติดตั้งกล้องวงจรปิดในรถ ซึ่งเป็นผู้ใช้รถยนต์ในทุกยี่ห้อก็ต้องระวัง และ รับรู้ว่า “การใช้รีโมตล็อกรถ”

หากกดรีโมตแล้วรถไม่ล็อกให้ก็ต้องสันนิษฐานไว้ก่อนว่า อาจจะมีกลุ่มมิจฉาชีพชั้นเซียนกำลังทำการรบกวนรีโมตรถยนต์ของเราอยู่ ก็ต้องหาทางเรียกให้คนอื่นมาช่วยเหลือ หรือ

รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มาตรวจสอบบริเวณดังกล่าวโดยตรวจสอบจากกล้องวงจรปิด

 

 

นายดุสิต สุขสวัสดิ์ อาจารย์วิศวกรรมศาสตร์ไฟฟ้า สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าคุณทหารลาดกระบังกล่าวเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า กุญแจรีโมตมีกำลังส่งประมาณ 0.5 วัตต์

ส่วนวิทยุสื่อสารมีกำลังส่งได้ตั้งแต่ 10-15 วัตต์ จึงทำให้ควบคุมพื้นที่ได้กว้างกว่าปกติตามกฎหมาย การใช้วิทยุสมัครเล่นจะถูกกำหนดย่านความถี่เพื่อไม่ให้มีการรบกวนคลื่นสัญญาณรีโมต

และ รบกวนการส่งสัญญาณของกล้องวงจรปิด ปกติเสาวิทยุสมัครเล่นจะมีแค่ต้นเดียว แต่ของคนร้าย หรือ โจรกรรมมือฉมังจะมีเสาวิทยุ 2 ต้น รีโมตรถยนต์ในทุกรุ่นจะมีการส่งสัญญาณอยู่ที่

ประมาณ 300-400 เมกะเฮิรตซ์ ซึ่งเป็นย่านที่วิทยุสื่อสารไม่ใช่กัน จึงต้องมีการจูนวงจรในเครื่องวิทยุเพื่อความถี่ตรงกับรีโมตรถยนต์

 

 

วิทยุสื่อสารของคนร้ายมีเสาวิทยุ 2 ต้น เนื่องจากเป็นการส่งความถี่ได้ 2 ความถี่ เมื่อส่งคลื่นความถี่ออกมารบกวน ทำให้รถยนต์ไม่สามารถรับสัญญาณรีโมต ไม่ว่ารถยนต์คันนั้น

จะมีระบบการใช้รีโมตรถยนต์ หรือ กล้องวงปิดในรถแบบไหนคือกลุ่มคลื่นเดียว หรือซิงเกิลซิกแนล โดยรีโมตชนิดดังกล่าวสังเกตได้ว่า จะมีกุญแจยื่นออกมา และ ใช้กับรถทั่วไป

ส่วนกลุ่มที่ 2 คือ ดับเบิลซิกแนล ซึ่งมีลักษณะกุญแจเป็นกล่องเล็ก ๆ และ ใช้กับรถยนต์ที่เป็นระบบสมาทเอ็นทรี หรือ การเข้าสู่รถโดยไม่ต้องใช้กุญแจไข ซึ่งกลุ่มนี้มีระบบป้องกันตัวเอง

หากเกิดการแจมสัญญาณมาก ๆ รถจะล็อกไม่ยอมให้สตาร์ท ส่วนใหญ่หากไปจอดในพื้นที่ที่มีการกวนสัญญาณสูง เช่น จอดในห้างสรรพสินค้ากลางเมือง อาจจะสตาร์ทไม่ติดได้

 

 

เพราะมิจฉาชีพเหล่านี้ก็มีการพัฒนารูปแบบการโจรกรรมที่พวกเรามักจะคาดคิดไม่ถึง และ ขโมยรถยนต์ หรือ ทรัพย์สินมีค่าได้ง่ายขึ้น ดังนั้น เจ้าของรถจึงต้องรับรู้ข่าวสารใหม่ ๆ

ทั้งในไทย และ ต่างประเทศ เช่น การติดตั้งกล้องวงจรปิดในรถ เพื่อให้รู้เท่าทันโจรผู้ร้าย และ ได้ตักเตือนเพื่อที่รู้จัก ญาติใกล้ชิดว่ายุคนี้เป็นยุคของโจรไฮเทค

ทางด้านนายมนัส ดาวมณี ผู้อำนวยการฝ่ายบริการด้านเทคนิค บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด มีข้อแนะว่า ระบบรีโมตคอนโทรลในรถยนต์ไม่ได้ผิดปกติ

 

 

ในกรณีที่สัญญาณรีโมตไม่ทำงานก็เกิดจากการถูกรบกวนจากอุปกรณ์อื่นที่มีการปล่อยสัญญาณคลื่นวิทยุ คลื่นแม่เหล็ก หรือจากรีโมตด้วยกันเอง หรือแม้แต่หม้อแปลงไฟก็ถือเป็นหนึ่งในหลายปัจจัยที่ทำให้รีโมตไม่สั่งการ

ดังนั้น หลังกดรีโมตเพื่อล็อกรถ ผู้ขับขี่ต้องตรวจสอบการล็อกด้วยสายตา หรือ จากการดูสัญญาณไฟกะพริบของระบบให้แน่ใจอีกครั้ง โดยปกติสัญญาณไฟของรถจะกะพริบ

และ มีเสียงดัง 1 ครั้ง หมายถึงการล็อก และ กะพริบ 2 ครั้งคือการปลดล็อก โดยลูกค้าสามารถตั้งให้มีเสียง หรือ ไม่มีเสียงได้ด้วยตัวเอง แต่ไม่สามารถตั้งสัญญาณไฟการล็อก

หรือ ไม่ล็อกได้ อีกอย่างเราแนะนำคือการติดตั้งกล้องวงจรปิดในรถ เพื่อจับใบหน้าผู้ต้องสงสัยที่เข้ามาจะโจรกรรม

 

 

นอกจากนี้การทำงานของระบบรีโมต หากตัวรับสัญญาณทำงานได้ไม่สมบูรณ์ก็อาจไม่เกิดการล็อก เช่น กรณีที่แบตเตอรี่มีแรงไฟต่ำ หรือ ในกรณีของลูกค้าที่เกิดขึ้นนั้นยังไม่ได้พิสูจน์ว่าอยู่ในสภาพแวดล้อมอย่างไร

แม้ว่ารีโมตรถยนต์จะกลายเป็นเครื่องมือที่อำนวยความสะดวกแก่เจ้าของรถไปในทุก ๆ ที่ เราสามารถ “เปิดปิด” ประตูรถโดยไม่ต้องเอื้อมมือไปกดล็อกเอง จนหลายคนเข้าใจว่ารีโมตทำหน้าที่กันขโมย

การใช้งานรีโมตจนเคยชินทำให้ขาดความระมัดระวัง ไม่ได้ตรวจสอบหลังสั่งการให้ปิดประตู เพราะเชื่อใจระบบนั่นเอง อย่างไรก็ตาม มิจฉาชีพมีการพัฒนาเป็นขั้นเซียนมากขึ้นจากการช่างคิด

 

 

หารูปแบบการโจรกรรมรถยนต์ที่สลับซับซ้อนมากขึ้น โดยการใช้วัสดุที่มีราคาไม่แพงในท้องตลาด เจ้าหน้าที่ตำรวจเองก็มีความกังวลไม่ต่างกับเจ้าของรถยนต์ และ บริษัทผู้ผลิตระบบป้องกันขโมย

เพราะแม้จะคิดวิธีป้องกันการขโมยออกมาหลายรูปแบบแล้วก็ยังไม่สามารถป้องกันโจรได้ทั้ง 100%

คำแนะนำที่ดีที่สุดสำหรับผู้ใช้รถคือ ผู้ใช้รถเมื่อทำการล็อกด้วยรีโมตต้องตรวจดูให้แน่ใจ ด้วยว่ารถถูกล็อกแล้วก่อนที่จะเดินจากรถไป ควรจอดใกล้สถานที่มีกล้องวงจรปิด และ

ควรฝึกให้เป็นนิสัยประจำที่ต้องระมัดระวังในการตรวจสอบการล็อกรถ มิฉะนั้นท่านอาจจะไม่สูญเสียเพียงทรัพย์สินในรถ แต่ท่านอาจจะน้ำตาร่วงเพราะรถท่านก็หายไปด้วย

 

 

 

Related link :กล้องวงจรปิด 1 ตัว และเส้นใยนำแสง (Fiber Optic) (ตอนที่ 4)